การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มีกฏหมายหรืออะไรรับรองได้แต่นั่นเป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม
หากมีความคิดเห็น ขอขอบคุณที่ทุกท่านมองเห็นและคลิกที่รูปดินสอไต้บรรยาย
นึกถึงวิทยาการทางทหารแล้วล่ะก็ พวกท่านอาจจะนึกถึงสิ่งที่สุดยอดไฮเทคอย่างเช่นจรวดนำวิถี ระเบิดนิวเคลียร์ แว่นมองกลางคืน ฯลฯ อย่างไรก็ดี ก็ไม่มีอะไรสมบูรณ์ไปเสียหมด มีหลายประเทศเหมือนกันที่ทำออกมาแล้วไม่ดีเท่าที่ควร นี่คือ 10 อันดับวิทยาการที่ใช้ไม่ค่อยได้
10. Corkscrew Tank(รถถังสว่าน)
9. One-Wheel Tank/Ball Tank(รถถังล้อเดียว)
แต่ด้วยทำออกมาเป็นต้นแบบ แต่ถ้าสร้างขึ้นมาก็แทบจะไม่ช่วยอะไรเลย(ช่วยให้ตายเร็วขึ้นเพราะใส่แผ่นป้องกันไม่ได้). การทรงตัวต้องสูง ตอนออกตัวอาจจะเป็นปัญหา(นึกถึงตอนอยู่ในสนามรบ) ล้มง่ายมากๆ แต่สาเหตุที่สร้างก็เพราะมันสร้างได้เร็วที่สุดในสมัยนั้นแล้ครับ
8. Scooter-mounted Cannon
ติดกระสุน 75 ม.ม. ซึ่งใช้โดยพลร่มฝรั่งเศสซึ่งแน่นอนว่าไม่ดีเนื่องจากไม่มีระบบป้องกันการถูกยิง และเวลายิงก็ไม่ง่ายด้วย
7. Focke-Wulf Triebfluegel
ตอนแรกก็ไม่มีใครเชื่อว่ามันจะบินได้ด้วยซ้ำ แต่ก็กลายเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสุดชาญฉลาดที่ถูกลืม ไม่ก็หนึ่งในอาวุธประหลาด ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมันพยายามทำเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งสามารถลงจอดแบบไม่ต้องใช้รันเวย์ ซึ่งกองทัพนาซีต้องการที่จะทำแบบนั้นโดยการเอาไบพัดย้ายมาอยู่แบบในรูปแล้วก็ใส่เจ็ทใว้ที่ปลายปีกและในที่สุดไปๆมาๆก็ปลายเป็นเครื่องบินที่ลงจอดยากมากๆและหมดประโยชน์ไปในที่สุด
6. Puckle Gun
ปืนปักเกิลประดิษฐ์โดย เจมส์ปักเกิล ซึ่งเป็นนักเขียนและนักกฏหมายชาวอังกฤษซึ่งพยายามประดืษฐ์ปืนสำหรับป้องกันซึ่งภายหลังเรียกว่าปืน“Puckle Gun.” ปืนนี้ยิงได้ไม่ไกลนัก ออกแบบมาสู้กับพวกนอกรีต ซึ่งมันทำงานของมันไม่ดีนักเนื่องจากใช้หลักการลูกโม่ ยิงได้ 63นักต่อ 7 นาที(ซึ่งบรมช้า) ซึ่งปืนในสมัยเดียวกันปืนคาบศิลาสามารถยิงได้ 3 นัดต่อนาที ซึ่งสมัยนั้นวิทยาการมีขีดจำกัดทำให้โครงการต้องถูกยกเลิกในที่สุด เพราะความสลับซับซ้อนของอาวุธดังกล่าว
หุ่นยนต์มีขาผมรับประกันได้เลยว่ามีหนังแนวนิยายวิทยาศาสตร์เยอะหลายเรื่องที่เขียนถึงแน่นอน ซึ่งเคยถูกทดสอบในปี 1968 ดีไซน์โดย Ralph Mosher ซึ่งจะช่วยทหารแบกสัมภาระในพื้นที่ๆทุรกันดารซึ่งจะถูกควบคุมโดยเครื่องบังคับวิทยุ ซึ่งมีไฮโดรริก แต่น่าเสียดายที่ไม่เคยถูกส่งไปในสายการผลิตซึ่งต้นแบบนั้นถูกเก็บใว้ที่พิพิธภัณท์ U.S. Army Transportation Museum ในเวอร์จิเนีย
หุ่นตัวนี้แบกน้ำหนักได้ ถึง 3000 ปอนด์และเดินทางได้ 5 กิโล/ชั่วโมง
4. Russian Tsar Tank
รถถังซาร์แลจะดูเหมือน จักรยานสามล้อมากในปัจจุบัน ซึ่งชาวรัสเซ๊ยเชื่อว่ามันมีประโยชน์ในสงครามมาก(ด้วยความใหญ่โตของมัน) แต่ไม่เคยมีหลักฐานการนำมาใช้ในสงคราม(ผุ้เขียนก็ไม่กล้าขับเหมือนกัน ด้วยความที่มันจะกลายเป็นเป้านิ่งและใหญ่มโหฬารมากในสงคราม) อย่างไรก็ก็ดีล้อที่ใหญ่ออกแบบมาให้ข้ามสนามเพลาะได้ง่าย แต่ด้วยน้ำหนัก ทำให้ล้อหลังจมโคลน ซึ่งบางครั้งมันเกินทำให้2ล้อหน้าทำงานเกินกำลังทำให้วิ่งไม่ออกในที่สุด ซึ่งทดสอบและนำมาใช้จริงในปี 1915 บางคันเดินทางออกจาก มอสโก ได้ไม่ถึง 60 กิโลฯ ก็ต้องพบหายนะ ซึ่งในที่สุดก็กลายเป็นแค่เศษเหล็ก
3. Charles de Gaulle
เรือรบนี้่ไม่ใช่เรือรบเทคโนโลยีใหม่ มันพึงจะเป็นเรือรบบรรทุกเครื่องบิน ซึ่งถูกต่อขึ้นในปี 1986 และหนักถึง 40,000 ตัน ซึ่งเสียเงินต่อมันมากถึง 40 ล้านเหรียญสหรัฐ และกองเรือฝรั่งเศสเชื่อว่ามันคือสุดยอดเรือรบยุคใหม่ที่ดีที่สุด เพราะเรือลำนี้ขับเคลื่อนด้วยพลังนิวเคลียร์ เรือลำนี้เคลื่อนที่ช้ากว่าที่ควรจะเป็น และการติดตั้งที่ผิดก็ทำให้สุดท้ายปรมาณูรั่วไหล และระบบการป้องกันก็ไม่ดีพอที่จะปกป้องเรือจากการถูกโจมตีได้
2. Rocket Belt(เจ็ทแพ็ค)
รุ่นเรา(20+นับในช่วงปี 2532ก่อนกับหลัง)น่าจะเคยได้ยินยูนิทอันมีชื่อเสียงจากเกมส์Red alert 2(กองทัพทลายโลก) เจ็ทแพ็คเป็นเครื่องไอพ่นที่สะพายอยู่บนหลังที่ใช้เดินทางไปในสถานที่ที่ไกล้ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งถูกประดิษฐ์ขึ้นในยุค 1960 ซึ่งกลายเป็นที่น่าสนใจในช่วงเวลา 1961 ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคเนดี ซึ่งทำให้เขาอยากลองทดสอบมันด้วยตนเองในฐาน แบรกก (Fort Bragg) ซึ่งภายหลังได้ทดสอบมันแล้วก็ไม่เห็นประโยชน์ของมันมากนักด้วยความที่เดินทางได้ไม่ไกลมากนัก ซึ่งเดินทางได้นานสุดเพียง 21 วินาที และระยะเดินทางเพียง 120 เมตรเท่านั้น
ซึ่งก็ถูกส่งเข้ากรุไปเหมือนๆกับเทคโนโลยีในยุคเดียวกัน
1. Flying Aircraft Carrier – USS Macon/USS Akron
USS Macon และรุ่นหลัง USS Akron(เครื่องบินคู่แฝดรุ่นน้อง) ซึ่งบินขึ้นและทำหน้าที่ของมันได้ดีจนกระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันทำให้เกิดหายนะ ในช่วง 1934 เนื่องจากบินสูงเกินไปเหนือแอริโซนา ส่วน USS Maconก็เจอชะตากรรมเดียวกันตกลงสู่พื้น ในวันที่ 12กุมภาพันธุ์ 1935 เนื่องจากการออกแบบที่ผิดพลาดในช่วงพายุเข้า
No comments:
Post a Comment