Can't find it? here! find it

Monday, November 17, 2014

Top 10 Samurai

การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มีกฏหมายหรืออะไำรรับรองได้แต่นั่นเป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม หากมีความคิดเห็น ขอขอบคุณที่ทุกท่านมองเห็นและคลิกที่รูปดินสอไต้บรรยาย

10 อันดับเรื่องเกี่ยวกับซามูไร

10 ซามูไรสตรี

ซามูไรนั้นเป็นสิ่งที่เงื่อนไขต้องเป็นผู้ชายเท่านั้นถึงจะเป็นซามูไรได้
แต่ชนชั้นนักรบก็เคยมีการรับผู้หญิงมาฝึกยุทธวิธีแบบเดียวกับผู้ชาย ซึ่งผู้หญิงเหล่านี้จะเรียกกันว่า ออนะ บุเกชา(“Onna-Bugeisha,”) ซึ่งก็รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชาย
อาวุธโดยส่วนใหญ๋แล้วจะเป็นง้าว(นางิงาตะ) หลาว และหอก
ซึ่งจริงๆแล้วมีข้อมูลเกี่ยวกับพวกเธอน้อยมาก
 (ซึ่งโดยปรกติแล้วผู้หญิงญี่ปุ่นมักจะเป็นแม่บ้านมากกว่า), ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปรกติในสมัยนั้น
แต่ทว่าจริงๆแล้วผู้หญิงก็มีบทบาทมากไม่แพ้ผู้ชาย
  ซึ่งร่วมการรบบ่อยมากในประวัติศาสตร์(เพิ่มเติมเป็นภาษาอังกฤษ) ซึ่งการค้นพบในสมรภูมิ  Senbon Matsubaru ในปี 1580 ซึ่งมีการขุดพบและทำการทดสอบ DNA  35 ใน 105 ร่างนั้นเป็นผู้หญิง!!!!

9 เกราะ


                           สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดคงจะเป็น เกราะอันหรูหรา ทุกๆแผ่นจะถูกถักขึ้นมาให้มีความคล่องตัวสูงสุด เกราะซามูไรจะไม่เหมือนกับ เกราะของอัศวินยุโรป ซึ่งออกแบบมาให้มีการใช้เพื่อให้เคลื่อนที่ได้ เกราะที่ดีจะต้องได้รับการศึกษา และยืดหยุ่นพอที่คนใส่จะขยับได้อย่างคล่องตัวในสนามรบ เกราะนั้นอาจจะทำจาก แผ่นแลคเกอร์ หนังสัตว์ไม่ก็เหล็ก ซึ่งถูกผูกติดด้วยเชือก หนังไม่ก็ไหม แขนจะถูกปกป้องด้วยแผ่นเหล็กที่ผูกซ้อนกัน และก็ผ้าคลุมแขน มือขวามักจะไม่ใส่กันเพื่อความคล่องตัวสูงสุด
                          สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดบนตัวเกราะคงจะเป็นหมวกนี่เองซึ่งหมวกก็ทำหน้าที่ของมัน ตัวหมวกนั้นสร้างมาจากเหล็กที่ขึ้นรูปและเย็บด้วยหมุด   หน้าและคอหอยก็ถูกปกป้องด้วยหน้ากากที่ทำจากเหล็กบ้างไม้บ้างซึ่งหมวกที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหมวกซามูไรก็คงหนีไม่พ้น Darth Vader
ซึ่งแรงบันดาลใจที่แท้จริงของหมวกดังกล่าวมันผสมๆกับหมวกซามูไรและหมวกทหารนาซี
ซึ่งมันมีประโยชน์ในการป้องกันศรีษะจากการถูกฟันและถูกยิงด้วยธนูจากแทบทุกมุม  หมวกหลายๆชนิดก็มีการแต่งเติมคุณลักษณะทั่วไป เช่นหนวดเครา หรือเขี้ยว หมายจะทำให้ศัตรูหวาดกลัวและป้องกันหน้า


8 เกย์(รักร่วมเพศ)


                       ไม่คี่อยมีใครรู้เรื่อที่ว่าซามูไรเป็นนักรบที่พร้อมจะเสียบเมื่อถึงวัยอันควร
เหมือนสปาตา และวัฒนธรรมนักรบอื่้นๆ ซามูไรไม่ใช่แค่ยอมรับเรื่องรักร่วมเพศแต่มีการสนับสนุนด้วย
ความสัมพันธุ์นี้มันย่อมเกิดขึ้นจากการฝึกเด็กใหม่ ซึ่งการฝึก wakashudo (“วิถีแห่งเยาว์”),สมาชิกจะต้องถูกทำการฝึกผ่านทุกคน วิถีแห่งเยาว์เป็นสิ่งที่ ไดเมียว(เจ้าผู้ครองแคว้น)จะต้องเผชิญหน้ากับคำถามเจื่อนๆหรือคำถามที่ไม่อยากตอบ ถ้าเขาไม่เคยผ่านจุดนี้มา
                       วิถีแห่งเยาว์เป็นสิ่งพื้นฐานของวิถีแห่งซามูไรประวัติศาสตร์ด้านมืดที่ไม่อยากเปิดเผย

วัฒนธรรมป็อปพรรณาเรื่องซามูไรซึ่งนำพามาโดยผู้กำกับภาพยนต์อากิระ คุโรซาวะและนักแสดงที่เขาใว้ใจ Toshiro Mifune, ซึ่งไม่เคยเปิดเผยเรื่องนี้มาก่อน

7 Western Samurai



                    ใครที่เคยดู The last Samurai อาจจะรู้เรื่องกรณีพิเศษที่ฝรั่งก็ได้เข้าร่วมรบกับซามูไร และได้เกียรติเป็นของตนเองด้วย ซึ่งเป็นเกียรติพิเศษ ซึ่งได้รับอาวุธและ ชื่อญี่ปุ่นด้วย ซึ่งจะต้องถูกประทานโดย เจ้าผู้ครองแคว้นกับโชกุนด้วยตนเองเท่านั้น

                     ในประวัติศาสตร์มีการรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เกี่ยวกับฝรั่งสี่คน ที่ได้รับการรับรองว่าเป็นซามูไรมีอดีตนักท่องเที่ยว William Adams, อดีตพ่อค้า Jan Joosten van Lodensteijn, เจ้าหน้าที่นายทหารเรือ Eugene Collache,และพ่อค้าปืน Edward Schnell. ซึ่งอาดัมเป็นคนแรกที่ดังมากจนทำเป็นหนังด้วย ทำงานในฐานะ คนเชิญธงและที่ปรึกษาให้กับโชกุนด้วย
ทอม ครูซเล่นเป็น ผู้กองอัลเกรนนั้น มีที่มาจาก Frederick Townsend Ward(อเมริกัน) กับ Jules Brunet(ฝรั่งเศส) 

6 จำนวน


               หลายคนเชื่อว่าซามูไรเป็น หน่วยรบพิเศษ(เหมือนกับเนวีซีลของสหรัฐ กับสเปียซนาซของรัสเซีย) มีจำนวนน้อย จริงๆแล้ว ซามูไร(หรือออกเสียงจริงๆว่าซาบูไร)แปลว่า "ขี้ข้า"เอ้ย "ข้ารับใช้"
ถ้าจะอธิบายคือ พวกนี้เป็นพวกระดับกลางกับระดับสูง

นั่นก็แปลว่า มีเพียบในข้อเท็จจริง จนถึงวันหนึ่งของจุดสูงสุดของอำนาจ ซึ่งมีมากกว่าร้อยละ 10 ของประชากรของญี่ปุ่นเป็นซามูไร


5 แฟชั่น


                        ซามูไรนี่ไม่ปานดาราวงร็อคในสมัยนั้นเลย ซึ่งแฟชั่นของพวกเขาเนี่ยส่งผลกระแสความฮิตเลยเสียด้วย แต่โดยปรกติซามูไรจะไม่แต่งตามใจมากนัก เพราะชุดซามูไรเป็นงานละเอียด
พวกเขาใส่แค่ทำยังไงให้ตัวเองดูเป็นนักรบ
ซามูไรแต่งเร็ว เคลื่อนที่ไว และเดินทางอย่างอิสระ แต่ชุดที่ใช้แพร่หลายมากที่สุดคงจะเป็น "ฮากามะ"และใส้เสื้อกิโมโน "ฮิทาทาเระ" และเสื้อกั๊กทำให้ไหล่ดูใหญ่ ชุดออกแบบมาให้ใส่ง่าย กิโมโนมีใว้กันหนาว รองเท้าไม่เกี๊ยะ ก็รองเท้าแตะสาน
แต่แฟนชั่นที่นิยมมากที่สุดคงจะเป็นทรงผม ใช้อย่างแพร่หลายมาก ยกเว้นพระ(ซึ่งเป็นคนตัด) ซึ่งชาวญี่ปุ่นนิยมตัดทรงนี้มาเป็นร้อยปี ซึ่งทรงนี้มีประโยชน์โดยการใช้แทนหมอนรองหมวกเหล็ก

4อาวุธ


           ในฐานะทหารซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะพก โชคุโต(chokuto)  ในฐานะดาบมันถูกออกแบบมาให้โค้งในภายหลัง ซึ่งกลายเป็น คาตานะ ในแบบที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกและเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวซามูไรด้วย ดาบคือทุกสิ่งของผู้ใช้ซึ่งจะพกดาบสำรองซึ่งใช้ชื่อว่าไดโช “daisho,” ซึ่งใช้กันอย่างแพร่พลายในชนชั้นซามูไรในขณะที่ซามูไรส่วนใหญ่จะไม่ใช้อย่างอื่นนอกจาก คาตานะ แต่ก็มักจะพกดาบสำรองไปด้วย แต่ดาบนั้นพกพาไปได้ง่ายที่สุดแล้ว อาวุธสำรองมักจะเป็น ยูมิ (ธนู) ซึ่งเขาจะฝึกแบบทุกเมื่อเชื่อวัน หอกก็เป็นอีกหนึ่งอาวุธสำคัญ ซึ่งภายหลังถูกแทนที่ด้วยยุทธวิธีที่พิถีพิถัน
            เมื่อปืนถูกนำมาใช้ในศัตวรรษที่ 16 ซามูไรก็ละทิ้งธนูและหันไปใช้ปืนกับปืนใหญ่ ปืนยิงไกลเป็นทางเลือกตั้งแต่ศึก ทาเกชิมะ ปืนคาบศิลากลายเป็นหนึ่งในอาวุธยอดนิยมในสมัยเดโดะ และปืนกับปืนใหญ่ก็กลายเป็นสิ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากๆ


3 การศึกษา



                   ด้วยอำนาจที่ของขุนนางที่ยิ่งใหญ่ในยุคนั้น ซามูไรจะต้องเป็นมากกว่านักรบ คือนักรบจะต้องอ่านออกเขียนได้ ซึ่งสมัยเดียวกันในยุโรปมีฝรั่งอยู่ไม่กี่คนที่อ่านหนังสือออก  แต่การอ่านออกเขียนได้ของซามูไรจะมีมาตรฐานสูงมาก และพวกเขาก็มีความรู้ทางด้านคณิตศาสตร์ วิถีแห่งนักรบจะต้องผันตนให้มีความรู้ในหลายๆแขนง รวมทั้งความรู้ที่นอกเหนือจากยุทธวิธี
                   ซึ่งก็มีความรู้ในการปั้นดินเผา ศิลปะการวาดรูป เขียนหนังสือหวัด จัดดอกไม้ วรรณกรรม ชงชาก็ต้องเป็น

2ลักษณะทางกายภาพ


                  เกราะกับอาวุธของซามูไรแลดูโอ่อ่าตัวใหญ่น่ากลัว แต่ก็เป็นสิ่งที่ถูกนำมาทำให้ดูดีในวัฒนธรรมป็อบ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เบี่ยงเบนตจากความจริงได้มากนัก จริงๆแล้วซามูไรส่วนใหญ่ "เตี้ย" ในศัวรรษที่ 16 ซามูไรส่วนใหญ่จะผอมมาก และสูงประมาณ 160-165 ซ.ม. หรือ 5’3″ - 5’5″   เทียบๆกับแล้วอัศวินยุโรปจะอยู่ประมาณ 180-196 ซ.ม.หรือ 6′-6’5″

แต่ว่าพวกซามูไรชั้นสูงจะไม่ใช่เชื้อชาติบริสุทธิ์มากนัก ส่วนใหญ่พวกซามูไรชั้นสูงมักจะขนดก และผิวขาวกว่ามากๆ ทรงจมูกพวกเขาจะไกล้เคียงฝรั่งมากก็เกราะว่ามีเชื้อสายชาวไอนุ(ชนพื้นเมืองฮกไกโด)อยู่ในตัวนั่นเอง

1 คว้านท้อง



                   สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของโลกซามูไร(และก็แทบจะมีอยู่นักรบชาติเดียวในโลก) คือ เซ็ปปุกุ (หรือการคว้านท้อง ฮาราคิรี)
มันเป็นสิ่งที่ซามูไรจะต้องกระทำหากไม่สามารถทำตามเกียรติที่บูชิโดบัญญัติ หรือหากถูกล้อมด้วยศัตรู
เซ็ปปุกุเป็นสิ่งที่สมัครใจทำหรือการลงโทษ ได้ทั้งสองอย่าง แต่ด้วยค่านิยมแล้วมันคือสิ่งที่ทรงเกียรติที่พึงจะกระทำ หลายๆคนมักจะคุ้นเคยกับการเซ็ปปุกุในสนามรบ  ซึ่งกระทำอย่ารวดเร็วและยุ่งเหยิง
ซึ่งจะทำการคว้านท้องด้วยวากิซาชิ(ดาบสั้น)แทงจากซ้ายไปขวาจนกว่าผู้กระทำจะไส้ไหล  จนถึงจุดนี้เพื่อนซามูไรก็จะตัดศรีษะทันทีด้วยดาบ (หาไม่ความเจ็บปวดนี้จะทำให้ผู้คว้านท้องทรมานมาก
                   การจะเซ็ปปุกุนั้นจะต้องอาบน้ำ ห่มชุดขาวและก็รับประทานอาหารมื้อสุดท้ายหลังจากกินเสร็จ จะต้องเขียนกลอนมรณะ ซึ่งเป็นธรรมเนียมก่อนตาย หลังจากเขียนเสร็จ จับมีด ถกเสื้อ คว้านท้องจากนั้นตัดคอ แต่คนฟันจะต้องแม่นไม่งั้นฉับเดียวไม่ขาด พอขาดจะต้องตกสู่พานที่จัดใว้ ไม่งั้นหัวจะขาดสะบั้น และส่งผลถึงความอัปยศ


Wednesday, June 4, 2014

Laws against Holocaust Thai translation

"รายการดังต่อไปนี้ มีเนื้อหาไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่แยกแยะ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม"


Laws against Holocaust denial(กฏหมายต่อต้านผู้ปฏิเสธิการสังหารโหด หรือเรียกว่ากฏหมายต่อต้านนาซี)

อ้างอิง ภาษาเยอรมัน http://de.wikipedia.org/wiki/Gesetze_gegen_Holocaustleugnung

หมวดประเทศ Deutschland

อ้างอิง ภาษาอังกฤษhttp://en.wikipedia.org/wiki/Laws_against_Holocaust_denial#Germany

หมวดประเทศ Germany

มารตรา  130

ภาษาเยอรมัน(German)

§ 130 Strafgesetzbuch: Volksverhetzung (1985, Ergänzungen 1992, 2002 und 2005)           (1) Wer in einer Weise, die geeignet ist, den öffentlichen Frieden zu stören, 1. zum Haß gegen Teile der Bevölkerung aufstachelt oder zu Gewalt- oder Willkürmaßnahmen gegen sie auffordert oder 2. die Menschenwürde anderer dadurch angreift, daß er Teile der Bevölkerung beschimpft, böswillig verächtlich macht oder verleumdet, wird mit Freiheitsstrafe von drei Monaten bis zu fünf Jahren bestraft.
           (3) Mit Freiheitsstrafe bis zu fünf Jahren oder mit Geldstrafe wird bestraft, wer eine unter der Herrschaft des Nationalsozialismus begangene Handlung der in § 6 Abs. 1 des Völkerstrafgesetzbuches bezeichneten Art in einer Weise, die geeignet ist, den öffentlichen Frieden zu stören, öffentlich oder in einer Versammlung billigt, leugnet oder verharmlost.
           (4) Mit Freiheitsstrafe bis zu drei Jahren oder mit Geldstrafe wird bestraft, wer öffentlich oder in einer Versammlung den öffentlichen Frieden in einer die Würde der Opfer verletzenden Weise dadurch stört, dass er die nationalsozialistische Gewalt- und Willkürherrschaft billigt, verherrlicht oder rechtfertigt.
ภาษาอังกฤษ(English)
§ 130 Public Incitement (1985, Revised 1992, 2002, 2005) 
(1) Whoever, in a manner that is capable of disturbing the public peace:
          1.incites hatred against segments of the population or calls for violent or arbitrary measures against them; or
          2.assaults the human dignity of others by insulting, maliciously maligning, or defaming segments of the population,
shall be punished with imprisonment from three months to five years.
(3) Whoever publicly or in a meeting approves of, denies or belittles an act committed under the rule of National Socialism of the type indicated in Section 6 subsection
          (1) of the Code of Crimes against International Law, in a manner capable of disturbing the public peace shall be punished with imprisonment for not more than five years or a fine.
(4) Whoever publicly or in a meeting disturbs the public peace in a manner that assaults the human dignity of the victims by approving of, denying or rendering harmless the violent and arbitrary National Socialist rule shall be punished with imprisonment for not more than three years or a fine.
§ 6 Genocide(addition in English reference §130)
(1) Whoever with the intent of destroying as such, in whole or in part, a national, racial, religious or ethnic group:
  1. kills a member of the group,
  2. causes serious bodily or mental harm to a member of the group, especially of the kind referred to in section 226 of the Criminal Code,
  3. inflicts on the group conditions of life calculated to bring about their physical destruction in whole or in part,
  4. imposes measures intended to prevent births within the group,
  5. forcibly transfers a child of the group to another group, shall be punished with imprisonment for life.
 
ภาษาไทย(Thai)
มาตรา 130 การยั่วยุและยุยงในที่สาฐารณะ (1985, แก้กฏหมายเพิ่มเติม 1992, 2002, 2005) 
(1) ผู้ใดที่มีพฤติกรรมที่ส่อแววไปในทางรบกวนสันติสุขในที่สาฐารณชน
         1.สร้างความเกลียดชังในกลุ่มประชาชน หรือ ก่อความรุนแรง หรือ กระทำโดยพลการ หรือ
         2.ทำร้ายฐานันดรศักดิ์โดยการดูถูก เสียดสี ใส่ร้าย หรือ ทำลายชื่อเสียงของ ผู้คน
จะต้องจำคุก 3 เดือน หรือ ถึง 5 ปี 

(3) ผู้ใดที่ที่พิจารณาแล้วว่ามีการรวมกลุ่ม ต่อต้าน ดูถูกดูเเคลน หรือการกระทำที่ส่อไปในทางบทบัญญัติพรรคสังคมนิยมแรงงานแห่งชาติ(นาซี)   หรือพยายามส่อไปในหมวด 6 ข้อวรรคย่อย (1) วลัยลักษณ์อักษรซึ่งส่งผลร้ายต่อกฏหมายนานาชาติ หรือส่อไปในทางก่อความไม่สงบ ต้องระวางจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือต้องโทษปรับ
 
(4) ผู้ใดที่มีการพบปะที่ส่อไปในทางก่อความไม่สงบซึ่งส่งกระทบไปในทาง ทำร้ายฐานันดรศักดิ์หากผู้ถูกกระทำพิสูจแล้วว่ามีการปฏิเสธิ ทำให้แลดูส่อแววไปในทาง ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จไปในตามบทบัญญัติ ของพรรคสังคมนิยมแรงงานแห่งชาติ(นาซี)
 ต้องระวางจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือต้องโทษปรับ

 มาตรา 6 Genocide(เสริมในภาษาอังกฤษ มาตรา 130)
(1) ผู้ใดที่มีเจตนาร้าย ส่อไปในทางทำลายกลุ่มคน เชื้อชาติ
ชาติพันธุ์ ศาสนา และกลุ่มคนและองค์กร 
  1. ฆ่าคนในกลุ่ม
  2. ส่งผลต่อความเจ็บปวดทางร่างกายต่อคนในกลุ่มซึ่งเกี่ยวข้อมกับ หมวด 226 ซึ่งเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม
  3. ทำให้บาดเจ็บกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไม่ว่าจะส่วนใดส่วนหนึ่งทั้งหมดของร่างกาย
  4. พยายามทำให้ไม่มีการเกิดบุตรหรือจำกัดประชากรของกลุ่มดังกล่าว
  5. บีบบังคับให้โยกย้ายเยาวชนออกจากกลุ่มไปอีกกลุ่ม ระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต

ภาษาเยอรมัน(German)

§ 189 Strafgesetzbuch: Verunglimpfung des Andenkens Verstorbener (1985, ergänzt 1992)
Wer das Andenken eines Verstorbenen verunglimpft, wird mit Freiheitsstrafe bis zu zwei Jahren oder mit Geldstrafe bestraft.
 ภาษาอังกฤษ(English)
§ 189 Disparagement of the Memory of Deceased Persons (1985, amendments of 1992)
Whoever disparages the memory of a deceased person shall be punished with imprisonment for not more than two years or a fine ภาษาไทย(Thai)
 มาตรา 189 การดูถูกดูหมิ่นเรื่องราวของผู้ล่วงลับในอดีต(1985 และถูกแก้ไขเพิ่มเติมในปี 1992)
 ผู้ใดที่ ดูถูกดูหมิ่นใส่ร้าย ผู้ที่ตายในอดีตจะต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือต้องโทษปรับ


ภาษาเยอรมัน(German)

§ 194 Strafgesetzbuch: Strafantrag
(1) Die Beleidigung wird nur auf Antrag verfolgt. Ist die Tat durch Verbreiten oder öffentliches Zugänglichmachen einer Schrift (§ 11 Abs. 3), in einer Versammlung oder durch eine Darbietung im Rundfunk begangen, so ist ein Antrag nicht erforderlich, wenn der Verletzte als Angehöriger einer Gruppe unter der nationalsozialistischen oder einer anderen Gewalt- und Willkürherrschaft verfolgt wurde, diese Gruppe Teil der Bevölkerung ist und die Beleidigung mit dieser Verfolgung zusammenhängt. Die Tat kann jedoch nicht von Amts wegen verfolgt werden, wenn der Verletzte widerspricht. Der Widerspruch kann nicht zurückgenommen werden. Stirbt der Verletzte, so gehen das Antragsrecht und das Widerspruchsrecht auf die in § 77 Abs. 2 bezeichneten Angehörigen über.
(2) Ist das Andenken eines Verstorbenen verunglimpft, so steht das Antragsrecht den in § 77 Abs. 2 bezeichneten Angehörigen zu. Ist die Tat durch Verbreiten oder öffentliches Zugänglichmachen einer Schrift (§ 11 Abs. 3), in einer Versammlung oder durch eine Darbietung im Rundfunk begangen, so ist ein Antrag nicht erforderlich, wenn der Verstorbene sein Leben als Opfer der nationalsozialistischen oder einer anderen Gewalt- und Willkürherrschaft verloren hat und die Verunglimpfung damit zusammenhängt. Die Tat kann jedoch nicht von Amts wegen verfolgt werden, wenn ein Antragsberechtigter der Verfolgung widerspricht. Der Widerspruch kann nicht zurückgenommen werden.
 ภาษาอังกฤษ(English) 
§ 194 Application for Criminal Prosecution
(1) An insult shall be prosecuted only upon complaint. If the act was committed through dissemination of writings (Section 11 subsection (3)) or making them publicly accessible in a meeting or through a presentation by radio, then a complaint is not required if the aggrieved party was persecuted as a member of a group under the National Socialist or another rule by force and decree, this group is a part of the population and the insult is connected with this persecution. The act may not, however, be prosecuted ex officio if the aggrieved party objects. When the aggrieved party deceases, the rights of complaint and of objection devolve on the relatives indicated in Section 77 subsection (2). The objection may not be withdrawn.
(2) If the memory of a deceased person has been disparaged, then the relatives indicated in Section 77 subsection (2), are entitled to file a complaint. If the act was committed through dissemination of writings (Section 11 subsection (3)) or making them publicly accessible in a meeting or through a presentation by radio, then a complaint is not required if the deceased person lost his life as a victim of the National Socialist or another rule by force and decree and the disparagement is connected therewith. The act may not, however, be prosecuted ex officio if a person entitled to file a complaint objects. The objection may not be withdrawn.

 ภาษาไทย(Thai)

 มาตรา 194 การยื่นคำร้องหรือร้องขอเพื่อการฟ้องร้องความผิดฐานอาชญากรรม

(1) การดูถูก เหยียดหยาม เพื่อการฟ้องร้องเพื่อการไขข้อข้องใจ ซึ่งเป็นการเผยแพร่ผ่านการเขียนขึ้น
หมวด 11 วรรค 3 ซึ่งทำให้ ซึ่งทำให้สาธารณชนเข้าถึงได้โดยสื่อวิทยุซึ่งทำให้ข้อข้องใจไม่เป็นการทำให้เกิดความเศร้าโศก เสียใจหากกลุ่มดังกล่าวมีการกระทำที่ส่อแววไปในทางพยายามหาสมัครพรรคพวกเข้ากลุ่มพรรคสังคมนิยมแรงงานแห่งชาติ(นาซี) หรือกลุ่มอื่นๆที่มีความคิดส่อไปในทางรุนแรง ไม่ว่าจะใช้วิธีบังคับขู่เข็ญหรือใช้แง่จิตวิทยา หรือพยายามด้วยวิธีทางใดที่พยายามสมัครพรรคพวกเข้ากลุ่ม อย่างไรก็ดี โดยถ้าถูกร้องเรียนว่าเป็นกลุ่มเกี่ยวข้องดังกล่าว
ซึ่งมีลักษณะเข้าข่าย หมวด 77 วรรค 2 ซึ่งไม่อาจเพิกเฉยได้(ต้องโทษสถานเดียวกันกับมาตรา189)
 
(2) หากความทรงจำของผู้ล่วงลับถูกดูหมิ่น หรือเกี่ยวข้องกับ หมวดมที่ 77 วรรค 2  ว่าด้วยการให้สิทธิ์ในการทำสำเนาไปในทางร้องทุกข์หากพฤติกรรมมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวในอดีตผ่านการเขียน (หมวด11วรรค3) ซึ่งทำให้สาธารณชนเข้าถึงได้โดยสื่อวิทยุ หากเรื่องราวไม่เกี่ยวข้องกับผู้ล่วงลับที่สูญเสียชีวิตในฐานะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพรรคสังคมนิยมแรงงานแห่งชาติ(นาซี) หรือกฏเกณฑ์อื่นๆ ที่เกิดจากการบังคับหรือทางจิตวิทยาที่มีการดูหมิ่นหรือเกี่ยวข้องกับวิธีดังกล่าวซึ่งไม่อาจเพิกเฉยได้(ต้องโทษสถานเดียวกันกับมาตรา189)