Can't find it? here! find it

Wednesday, October 8, 2008

Romance of three kingdoms:evidence of History


สามก๊ก เรื่องจริง หรือ อิงนิยาย Romance of three kingdoms: Exist or just fable


หลายคนคงเคยสงสัยกันว่า เล่าปี่ กวนอู ขงเบ้ง โจโฉ จูล่ง ซุนกวน เตียวหุย ฯ เหล่านี้มีตัวตนจริงหรือเป็นเพียงแค่ตัวละครในนิยายเท่านั้น รวมถึงเรื่องราวการสู้รบ

Somany people are curious about Liu bei, Guan Yu, Kongming, Cao cao, Zhanglong , Sun quan

ทำศึกสงครามแย่งชิงกันระหว่าง สามก๊ก เคยเกิดขึ้นจริงไหม
อนึ่ง สามก๊ก หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า Romance of the Three Kingdoms เป็นวรรณกรรมอิงประวัติศาสตร์จีนที่แต่งขึ้นประมาณช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 สมัยราชวงศ์หยวน ยุคสามก๊ก เป็นชื่อเรียกช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน เกิดขึ้นจริงในปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ที่แผ่นดินจีนแตกแยกเป็นแว่นแคว้นต่าง ๆ มากมาย โดยมีแคว้นที่ใหญ่ที่สุด 3 แคว้น คือ วุย, ง่อ และจ๊ก แต่ละแคว้นก็รบพุ่งกันเอง กินระยะเวลานานประมาณ 111 ปี โดยมี ลกเอี๋ยง (ลั่วหยางในปัจจุบัน) ตั้งอยู่ในเขตของแคว้นวุยเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางอำนาจที่ใหญ่ที่สุด จนกระทั่ง สุมาเอี๋ยนรวบรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จ และสถาปนาราชวงศ์จิ้นขึ้นมาเป็นราชวงศ์ใหม่ขึ้นมา ในค.ศ. 280 ยุคสามก๊กจึงสิ้นสุดลงอย่างบริบูรณ์
สำหรับสามก๊กฉบับ หลอกว้านจง กล่าวถึงประวัติศาสตร์จีนในยุคค.ศ. 220-280 เริ่มตั้งแต่ยุคโจรโพกผ้าเหลือง (ค.ศ.183) เนื้อเรื่องเน้นการชิงอำนาจในช่วงปลายราชวงศ์ฮั่น ของก๊กต่างๆ อันประกอบด้วยวุยก๊ก จ๊กก๊ก และง่อก๊ก จนไปถึงการสถาปนาราชวงศ์จิ้นโดยสุมาเอี๋ยนหลานชายของสุมาอี้ (บุตรชายของสุมาเจียว) ระยะเวลาประมาณ 60 ปี
ทั้งนี้ สามก๊กถือเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดวรรณกรรมจีนร่วมกับไซอิ๋ว ซ้องกั๋ง และความฝันในหอแดง บางคนกล่าวว่าสามก๊กเป็น บทเรียนตำราพิชัยสงครามภาคปฏิบัติ นอกจากนั้น วรรณกรรมชิ้นนี้ยังได้รับการยกย่องจากองค์กรยูเนสโกให้เป็นสุดยอดวรรณกรรมชิ้นหนึ่งของโลก ที่มีการนำไปแปลมากกว่า 20 ภาษาทั่วโลก จนมีการสร้างเป็นละครและภาพยนต์หลายต่อหลายครั้ง ที่คุ้นตาคนไทยที่สุดเป็นละครที่จีนใช้ทุนสร้างมหาศาล ดำเนินเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบรวมแล้วหลายร้อยตอน
นิยายสามก๊กแต่งขึ้นสมัยราชวงศ์หยวนโดยนำเอาเหตุการณ์จากยุคสามก๊กมาเป็นพื้นในการดำเนินเรื่อง แล้วแต่งเติมบางฉากบางตอนเข้าไปตามจินตนาการของผู้แต่งเพื่อสื่อถึงความคิดของตนต่อการเมืองการปกครองในยุคนั้น กล่าวกันว่าเป็นเรื่องจริงประมาณ 40% เรื่องแต่งประมาณ 60% โดยในส่วนของตัวละครหลักฯนั้นคาดว่ามีจริงเกือบทุกตัว แต่อาจมีบางตัวที่แต่งเติมขึ้นมาเพื่อความเข้มข้น สนุกสนานของเรื่อง
ส่วนวีรกรรมเหนือจริงของตัวละคร ทั้งการบุกเดี่ยวสู้กับกองทัพนับร้อย เล่นหมากรุกไปผ่าตัดไป ปิดตายิงถูกเป้าหมาย ตะคอกจนตกม้าตาย เรียกลมเรียกฝน ม้าบินได้ ฯ ล้วนแล้วแต่เป็นการแต่งขึ้นเพื่อความสนุกของเรื่อง และสร้างภาพลักษณ์ของตัวละครให้โดดเด่น ซึ่งก็ได้ผลเป็นอย่างดีอย่าง กวนอู เองก็ถึงกับได้รับการยกย่องจากชาวบ้านให้เป็น เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์


ดังนั้น นิยายสามก๊กจึงมีความผิด เพี้ยนกับประวัติศาสตร์จริงหลายจุด จุดที่เป็นการแต่งเติม นักประวัติศาสตร์พอคาดเดาได้บางจุด อาทิ
จุดแรก คือ ฉากที่ เล่าปี่ กวนอู และเตียวหุย ได้กรีดเลือดสาบานเป็นพี่น้องกันนั้น สมัยนั้นยังไม่มีประเพณีการสาบานเป็นพี่น้องกันแบบนี้ มีเพียงการดื่มเลือดสาบานของเหล่าบ่าวรับใช้ว่าจะจงรักภักดีต่อนายเท่านั้น การดื่มเลือดสาบานเป็นพี่น้องนั้นมาจากลัทธิหมิงเจี้ยว ที่เพิ่งเกิดขึ้นและโด่งดังมากในช่วงชีวิตของหลอกว้านจง และหลอกว้านจงได้นำลัทธิหมิงเจี้ยวนี้เอง มาใส่ลงวรรณกรรมสามก๊กของตน
อีกจุดหนึ่ง คือ จุดที่กล่าวว่า ขงเบ้งตอนจนตรอกถูกสุมาอี้ยกทัพมากว่าแสนคนจะมายึดเมืองเสเสีย ขณะที่ตนมีเพียงทหารที่ไม่ชำนาญศึกเพียงห้าพันนาย ขงเบ้งจึงเปิดประตูเมืองทุกบาน ให้ทหารปลอมเป็นชาวเมืองและทำกิริยาเหมือนเป็นชาวบ้านกำลังทำกิจวัตรตามปกติ ส่วนขงเบ้งก็ไปนั่งดีดพิณบนกำแพงเมืองอย่างสบายใจ เมื่อสุมาอี้มาถึงเห็นว่าชาวเมืองและขงเบ้งไม่มีอาการตกใจหรือลนลาน ขงเบ้งคงเตรียมการรับมือไว้อย่างดีแล้วกระมัง เราคงสู้ขงเบ้งไม่ได้ สุมาอี้จึงถอยทัพไปเอง จุดที่กล่าวมานี้ไม่มีในบันทึกซานกว๋อจื้อ แต่หลอกว้านจง นำประวัติศาสตร์จากยุคจิ๋นซีฮ่องเต้มาดัดแปลง
ทว่า ก็มีเหตุการณ์อีกหลายเหตุการณ์ที่เป็นประวัติศาสตร์อันเกิดขึ้นจริง อย่างยุทธนาวีที่ผาแดง(Red Cliff) เซ็กเพ็ก หรือ ชีปี้ ซึ่งเป็นการรบครั้งสำคัญระหว่างวุยก๊กกับง่อก๊ก และส่งผลให้แผ่นดินแตกออกเป็นสามก๊กอย่างสมบูรณ์ ปัจจุบันที่ผาแดงมีอักษรจารึกอยู่บนหน้าผาเป็นสัญลักษณ์
ล่าสุด ตอนสำคัญในเรื่องสามก๊กอย่าง ศึกเช็กเพ็ก ตอนโจโฉแตกทัพเรือ ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ในชื่อ Redcliff ซึ่งแตกต่างกับ Three Kingdom ซึ่งเข้าฉายไปก่อนหน้าไม่นาน ที่เป็นสามก๊กภาคพิเศษ โดยจะเน้นเฉพาะตัวละคร จูล่ง(รับบทโดย หลิว เต๋อ หัว) เป็นหลัก


ส่วน Redcliff เป็นเพียงตอนสำคัญตอนหนึ่งในเรื่องสามก๊ก ทำให้สามารถเจาะลึกรายละเอียดได้มากกว่า รวมทั้งมีโปรดั๊กชั่นอลังการระดับ Hollywood มีนักแสดงชื่อดังของเอเชียคับคั่ง แรกเริ่มอาจมีปัญหาอยู่บ้าง เมื่อ โจ เหวิน ฟะ ที่จะมารับบทจิวยี่ขอถอนตัว ทำให้ เหลียง เฉา เว่ย ที่จะรับบทขงเบ้งเกือบถอนตัวตาม โชคดีที่เขาเปลี่ยนใจแล้วกลับมารับบท จิวยี่ โดยมี ทาเคชิ คาเนชิโร มารับบท ขงเบ้ง นอกจากนี้ยังมีนักแสดงแถวหน้าของเอเชียอย่าง หลินจื่อหลิง รับบทเป็น เสี่ยวเกียว เจ้าเหว่ย รับบทเป็น ซุนหยิน ฮูจุน รับบทเป็น จูล่ง ฯ




กำกับการแสดงโดยผู้กำกับชื่อดังของเอเชีย จอห์น วู
"เราต่างเคยชมภาพยนตร์มหากาพย์ฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวู้ด ในฐานะผู้ชม เรารู้สึกตื่นเต้นกับภาพอันยิ่งใหญ่และพลังเสียงที่เร้าอารมณ์จากเทคโนโลยีอันทัน สมัย ผู้ชมทั่วโลกก็ชื่นชอบภาพยนตร์จีนแนวต่างๆเช่นกัน ทั้งกังฟู, แอ๊คชั่น และดราม่า แต่
ภาพยนตร์จีนมหากาพย์อิงประวัติศาสตร์ยังไม่เคยได้รับการถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ด้วยเทคนิคอันทันสมัยแบบฮอลลีวู้ดมาก่อน ภาพยนตร์จีนมีองค์ประกอบทางวัฒนธรรมอยู่มาก รวมทั้งจิตวิญญาณแห่งศิลปะการต่อสู้ สื่อภาพยนตร์ทำให้เราสามารถถ่ายทอดความเชื่อและวัฒนธรรมได้หลายชั้น ความคิดนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับวีรบุรุษในสามก๊ก ให้หลากหลายจากแนวศิลปะการต่อสู้ นี่คือภาพยนตร์ที่ผมฝันอยากสร้างมานาน ตั้งแต่ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับวีรบุรุษในประวัติศาสตร์อันทรงเกียรติเหล่านั้น
เรื่องราวใน Red Cliff เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 1,800 ปีก่อนในประเทศจีน ศึกผาแดงเป็นสงครามที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ จากเรื่องราวที่เล่าต่อกันอย่างแพร่หลาย เราได้เรียนรู้ถึงสติปัญญาและความกล้าหาญของคนจีนในอดีต ที่แม้จะถูกรุกรานโดยศัตรูจำนวนมหาศาล ก็สามารถวางแผนเอาชนะได้ ผมเชื่อว่า การร่วมงานกับทีมงานที่มีความสามารถและการใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ทำให้เราสามารถนำเรื่องราวมหากาพย์นี้สู่จอภาพยนตร์ด้วยคุณภาพระดับฮอลลีวู้ดได้ เราสร้างสรรค์ฉากต่อสู้ที่สมจริงด้วยการถ่ายทำบนสถานที่จริงและใช้เทคนิคพิเศษตก แต่งหลังการถ่ายทำ ซึ่งงานภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจแบบนี้ยังไม่เคยปรากฎในภาพยนตร์จีนเรื่องไหนมาก่อน


Redcriff โจโฉแตกทัพเรือ(หนังตัวอย่าง) - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่
เป้าหมายของผมคือการยกหนังเรื่องนี้ให้ข้ามพ้นกำแพงทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เพื่อที่ผู้ชมชาวตะวันตกจะได้รู้สึกเหมือนกับได้ดู Troy ฉบับเอเชีย ขณะที่ผู้ชมชาวเอเชียจะได้เห็นมุมมองใหม่ของเรื่องราวที่พวกเขาคุ้นเคย นอกจากนี้ ผมยังต้องการพิสูจน์ว่าประเทศจีน สามารถสร้างภาพยนตร์มหากาพย์คุณภาพทัดเทียมฮอลลีวู้ดได้
สำหรับผม แง่มุมที่น่าสนใจที่สุดของสามก๊ก ไม่ใช่ตัวละครเหนือธรรมชาติที่อยู่ในวรรณกรรม แต่คือความเป็นวีรบุรุษที่ตัวละครแสดงออกมา โลกนี้มีวีรบุรุษอยู่หลายประเภท แต่ผมชอบวีรบุรุษที่สมจริงและเป็นมนุษย์มากกว่า และวีรบุรุษในสามก๊กมีคุณสมบัติตรงกับวีรบุรุษในทัศนคติของผม ผมเชื่ออย่างจริงใจว่า อารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์เป็นเรื่องสากล และไม่ผูกติดกับวัฒนธรรม ค่านิยมเรื่องคุณธรรม, ความดีงาม และมิตรภาพ ได้รับการยกย่องในตะวันตกเล่นเดียวกับในตะวันออก แม้ความรู้สึกเหล่านี้จะได้รับการถ่ายทอดในลักษณะที่ต่างกัน แต่ลึกๆแล้ว เราต่างรู้สึกเช่นเดียวกัน" จอห์นวูกล่าว
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเรียกสามก๊กเป็น ประวัติศาสตร์ พงศาวดาร ตำนาน นิทาน นิยาย หรืออะไรก็ตามแต่ สามก๊กได้ให้แง่คิด คติธรรม รวมถึงสะท้อนสัจธรรมในเรื่องของความขัดแย้งในบ้านเมืองได้อย่างดี เพราะสุดท้ายแล้วทั้งสามก๊กก็ล่มสลายไปหมด เพราะทิฐิ บุญคุณ ความแค้นที่ไม่อาจลดราวาศอกกันได้ ดูแล้วช่างเข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองเราจริงๆ



Special thanks: Mr. El ninyo of Mthai

No comments: