Can't find it? here! find it

Saturday, February 13, 2010

ตอบคำถามวิชาประวัติศาสตร์

การ ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มีกฏหมายหรืออะไำรรับรองได้แต่นั่น เป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม

มีคนถามผมว่า


" ทำไมในแถบตะวันออกไกล ทำไมฝรั่งมันถึงชอบดูถูก จีน(ยังไม่เท่าไร) เกาหลี แต่ทำไมญี่ปุ่น มันกลับยกยอแบบเสมอภาค

ผมเห็นประเทศจีนพยายามทุกวิถีทางที่จะเทียบตะวันตกให้ได้
ทั้งภาษา(ก็ประสบผลสำเร็จ) ประเพณี วัฒนธรรม ต่างๆ
ให้เทศกาลจีนเสมอเทศกาลฝรั่ง
แล้วเวลาฝรั่งไปเปรียบเทียบอะไรก็ตามเวลาถูกเทียบเคียงกับจีน หรือเกาหลี พวกเขาจะดูถูก
                 แต่ทำไมพอกับญี่ปุ่น แต่ก่อนสมัยสงครามชอบเรียกไอ้ยุ่น ไอ้ยุ่น เดียวนี้กลับชื่นชม ติดวัฒนธรรมต่างๆของญี่ปุ่นงองแงม
ทั้งภาษา วัฒนธรรม ลัทธิต่างๆ บูชิโด ความกล้า การ์ตูน ประวัติศาสตร์ เพลง รายการทีวี หนัง ซามูไร นินจา
อะไรแบบนี้
แต่พอกับจีน กับเกาหลี กลับดูถูกซะงั้น
หรือเพราะนิสัยคนชาตินั้นหรือ"

เป็นผมเห็นชอบและตอบได้ในทันทีว่า.........................



 เป็นเพราะการตัดสินใจของผู้นำประเทศจีนตั้งแต่ยุคของซื่อฉีไท่โฮ่ว(ซูฉีไทเฮา)ซึ่งบ้าอำนาจและลำพองในอำนาจของสมเด็จปู่คังซี-หยวน ซื่อ ไข่เป็นต้นมาซึ่งเป็นผู้สร้างรัฐธรรมนูญขึ้นมาและไม่เป็นที่ยอมรับของคนจีน ที่ยึดติดกับจารีตประเพณีที่มีมามากกว่า 3500 ปี!!!! (และก็จะพยายามตั้งตนเป็นฮ่องเต้ในเวลาต่อมา)  พวกกระผมเลยต้องค่อยๆทำค่อยๆมี จนเวลาล่วงเลยไป 50 ปี ปรากฏว่าจีนยังไม่สามารถร่างรัฐธรรมนูญฉบับของจีนได้เอง เพราะมีกบฏที่ยึดติดกับเรื่องเก่่าๆบวกกับแผ่นดินเขาใหญ่และคนก็เยอะมากมัน เลยทำให้คนต่างชาติดูถูกคนจีนเพราะตัวพวกอเมริกาและอังกฤษ(ชาติตะวันตกทั้ง หลาย)เองเคยชนะคนที่ลำพองว่าตัวเองเก่งยิ่ง ..............เลยดูถูก

สมเด็จพระจักรพรรดิโกจอง

เกาหลีในสมัยโฮจองเป็นรัชสมัยที่เกาหลีอ่อนแอที่สุดและลำพองว่าข้ามีจีนปกป้องและก็ปิดประเทศตัวเอง
ก็เลยทำให้เกาหลีเข้าสู่ยุคที่อ่อนแอที่สุด อาวุธยุทโธปกรณ์ก็ล้าหลังกว่าจีนและถูกญี่ปุ่นพิชิดในปี 1910



แต่ในขณะืั้ที่ญี่ปุ่นในปี1867 ได้ร่างรัฐธรรมนูญขึ้นโดยทำลายประเพณีจารีตและระบบศักดินาและก่อตั้งกองทัพ ที่ทรงพลังที่สุด แกร่งที่สุด และทันสมัยที่สุดในสมัยนั้นได้เรียกกันในนาม ทหารกองจักรวรรดิญี่ปุ่น และได้คิดลองดีและเอาชนะรัสเซียได้อย่างเข็ดขาดในปี 1905
เอาขนะเยอรมนีโดยยึดฐานทัพในเอเซียอย่างชิงเต่า(จีน)ได้ในปี 191X(ไม่แน่ใจวันเวลาที่ยึด)
ขยายจักรวรรดิออกไปได้ไกลแสนไกลจนถึงขีดสุดปี1942
และรัญธรรมนูญในปี 1950-1970 เป็นรัฐธรรมนูญที่ให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายเป็นตัวอย่างรัฐธรรมนูญระดับแนว หน้าในเรื่องความรัดกุมและมีช่องโหว่น้อยนิด


 คำตอบนี้คือการตอบคำถามในกระทู้นี้


การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มี กฏหมายหรืออะไำรรับรองได้แต่นั่นเป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม

หากมีความคิดเห็น ขอขอบคุณที่ทุกท่านมองเห็นและคลิกที่"Post a comment"ที่ไต้บรรยาย

Friday, February 12, 2010

ผู้หญิงในสมัยสงครามโลก

การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มีกฏหมายหรืออะไำรรับรองได้แต่นั่นเป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม


1


ผู้มีการเกณฑ์อย่างต่อเนื่อง
2



3


4

One woman writing for the magazine of a projectile factory she was working in said: "the fact that I am using my life's energy to destroy human souls gets on my nerves". She was proud that she was "doing what I can to bring this horrible affair to an end. But once the war is over, never in creation will I do the same thing again".

5

Women dance together in the East End of London to celebrate the war's end - how many were lucky enough to be expecting sweethearts home from the front? Returning soldiers were certainly to find that British society and the role of women in particular had changed since August 1914.
6

การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มีกฏหมายหรืออะไำรรับรองได้แต่นั่นเป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม

หากมีความคิดเห็น ขอขอบคุณที่ทุกท่านมองเห็นและคลิกที่รูปดินสอไต้บรรยาย

Thursday, February 11, 2010

Life in the 1500s-Reality in the History

การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มีกฏหมายหรืออะไำรรับรองได้แต่นั่นเป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม






ชีวิตในสมัยศัตวรรษที่ 16


ทีหลังหากใครคิดว่าการใช้น้ำเป็นเรื่องยุ่งยากล่ะก็ลองกลับไปในยุคสมัยศัตวรรษที่ 16ดูสิ






ผู้คนในสมัยนั้นส่วนใหญ่แต่งงานกันตอนเดือนมิถุนายน  เพราะเนื่องจากคนยุโรปเขาจะอาบน้ำในเดือนพฤษภาคมและก็ยังคงรัญจวนไปจนถึงตอนเดือนมิ.ย.    อย่างไรก็ตาม, พวกเขาเริ่มจะได้กลิ่นเจ้าสาวถือช่อดอกไม้มาขณะที่เจ้าสาวซ่อนอยู่หลังประตู


การอาบน้ำในสมัยนั้นต้องอาบด้วยการไส่น้ำร้อนลงไปในถังน้ำใหญ่ในขณะที่ผู้ชายได้อาบน้ำคนแรกที่สะอาด, แล้วก็ลูกชายและชายอื่นแล้วก็ตามด้วยผู้หญิง, และเด็กๆถึงทารกคือชุดสุดท้าย เพราะตามคิวแบบนี้, น้ำจึงสกปรกมาก


บ้านมีการมุงจาก ,มุงด้วยฟางอย่างหนา, สูง, และไม่มีการวางไม้ข้างไต้. เพื่อที่จะให้สัตว์ได้อยู่กันแบบอบอุ่น, เพราะงั้นหมา แนว และสัตว์ตัวเล็กๆทั้งหลาย(หนู หรือแมลง) จะได้ไปอยู่บนหลังคา. เมื่อฝนตก, หลังคากลายเป็นที่ลื่นมากและตกลงมาใส่หัวผู้อยู่อาศัย ซึ่งไม่มีอะไรหยุดมันได้  แน่นอนมันเป็นปัญหามากสำหรับห้องนอน   เพราะไม่ว่าจะสัตว์ชนิดใดก็จะตกใส่เตียงแบบไม่ยี่หระ. นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเตียงยุโรปถึงมีผ้ามุง

พื้นเน่า;พื้นในบ้านเน่าเป็นแถบๆ มันก็เป็นที่มาของคำพังเพลที่ว่า "dirt poor-ยาจก??"

 
คนร่ำคนรวยอาจจะมีเงินซื้อพื้นมาปูแต่มันตจะทำให้พวกเขาตาลังกีหรือตีลังกาได้เมื่อถึงฤดูหนาว เพราะงั้นเศษขยะที่ตกอยู่ตามพื้นมันช่วยพวกเขาไม่ให้ลื่นได้(อี๋) เพราะงั้นพอถึงฤดูหนาวพวกเขาก็จะโยนขยะให้เต็มพื้นเพื่อที่จะเดินได้สะดวกโดยที่ไม่ลื่น


 

อาหารการกินของพวกเขาก็จะหนีไม่พ้นกะืทะร้อนๆ
แต่แน่นอนคนยุคนั้นไม่ได้มีเนื้อให้กินมากเท่าทุกวันนี้           เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องทำเนื้อสตูว์ในตอนเย็น และเหลือใว้  ทิ้งมันใว้ข้ามคืน และกินต่อในรุ่งเช้า 
; มันมีสุภาษิตฝรั่งเขาว่า, "peas porridge hot, peas porridge cold, peas porridge in the pot nine days old.-โจ๊กถั่วถึงร้อนถึงเย็น โจ๊กถั่วอายุ 9 วัน"



บางครั้งพวกเขาอาจจะกินหมู ซึ่งจะเป็นมื้อที่วิเศษมาก 

เมื่อมีแขกมาเยือน, เจ้าบ้านจะทำการทำเนื้อหั่นมาแสดงให้ดู
เพื่อที่จะแสดงให้ดูว่า่กระผม/ดิฉันร่ำรวยนะ
และแน่้นอนว่าพวกเขาจะเฺฺฉือนเนื้อนิดๆเพื่อจะแบ่งให้แขกที่้มาเยือนบ้านได้ลิ้มลองรสชาติ หรือเรียกง่ายๆกว่า "แบ่งกันอ้วน"

"OH MY BUDDHA!!!"

เงินในสมัยนั้นเป็นเหรียญทำมาจากโลหะผสมดีบุกกับตะกั่ว. อาหารที่ประักอบด้วยกรดเพื่อการกลั่นกรองอาหาร, ทำให้คนในสมัยนั้นตา่ยกันบ่อยๆ. ซึ่งส่วนมากจะเกิดขึ้นในมะเขือเทศ, ต่อมาอีก400ปี มะเขือเทศก็ถูกตีตราว่ามีพิษ!?!?!?

ขนมปังเป็นสิ่งที่ถูกทำให้แบ่งแยกถึงสถานะของคน. ผู้อยู่อาศัยได้ส่วนไหม้ส่วนก้นขนมปัง. ครอบครอบครัวของตนจะได้ส่วนหลาง แขกจะได้ส่วนบนสุด

แก้วที่ทำจากตะกั่วนั้นมีใว้กินวิสกี้และเหล้ามอลต์
การที่กินผสมๆกันอาจทำให้่ บางคนแฮ็งได้หลายวันๆ 

บางคนดื่มไปแล้วอยู่ดีล้มหัวฟาดพื้นตายกลางถนนก็ย่อมได้
 

และเรื่องเหล่านี้เก็เป็นความจริง  เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์...............แล้วคุณยังจะคิดว่าประวัติศาสตร์มันน่าเบื่ออีกใหม
http://www.thatsweird.net/history9.shtml         เครดิตแปล


การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มีกฏหมายหรืออะไำรรับรองได้แต่นั่นเป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม


หากมีความคิดเห็น ขอขอบคุณที่ทุกท่านมองเห็นและคลิกที่รูปดินสอไต้บรรยาย

เหลือเชื่อที่มนุษย์อวกาศจะมีในศัตวรรษที 16

การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มีกฏหมายหรืออะไำรรับรองได้แต่นั่นเป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม

มาดูมนุษย์อวกาศ ที่ทางเข้าโบสถ์ The New Cathedral of Salamanca ที่ประเทศสเปนกัน
โบสถ์นี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16
( ของจริงเปล่าหว่า -*- )





















เครดิต http://www.kidmaioak.com/thread-27584-1-1.html

การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นอาจไม่มีกฏหมายหรืออะไำรรับรองได้แต่นั่นเป็นสมบัติของคนต่ำ มันสื่อถึงรากง่าวของบิดามารดาทุกท่านที่คิดจะคัดลอกบทความแปลผม

หากมีความคิดเห็น ขอขอบคุณที่ทุกท่านมองเห็นและคลิกที่รูปดินสอไต้บรรยาย