Can't find it? here! find it

Friday, November 21, 2008

Japanese WW2 soldier return to Japan

อดีตทหารญี่ปุ่นWWII กลับมาตุภูมิ หลังหายตัวกว่า 60 ปี
Japanese soldier of WWII has returned since they gone for 60 years


อิชิโนสุเกะ อูวาโนะอดีตทหารในสงครามโลกครั้งที่ 2

Ishinosuke Uwano(84) Japanese soldier of WWII
อดีตทหารญี่ปุ่นที่เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่หายตัวไปนานกว่า 60 ปีเดินทางกลับถึงญี่ปุ่น เผยคิด

He was in action of WWII. Who MIA(nissed in action) about 60 years has returned to Japan.

ถึงดอกซากูระ และภาษาของพ่อแม่เลยขอกลับมาตุภูมิอีกครั้ง ขณะที่ทางการเคยประกาศว่าทหารรายนี้เสีย

He said he wated to see Cherry Blossoms(Sakura-桜),and want to speak the fatherland language.

ชีวิตระหว่างรบในสงครามอิชิโนสุเกะ อูวาโนะอดีตทหารในสงครามโลกครั้งที่ 2 วัย 83 ปีเดินทางถึงท่า

So he returns. He arrived into Narita airport Now(19/11/2008) he has had interviewed that so long time that he doesn't speak Japanese. He wanna say "Konnichiwa-こんにちわ"

อากาศยานนาริตะ ในวันนี้ (19) โดยให้สัมภาษณ์ว่าตัวเขาไม่ได้พูดภาษาญี่ปุ่นมาเป็นเวลานานแล้ว และสิ่ง

Other thing is he wanted to see Sakura agian.

แรกที่จะทำคือ ขอพูดว่า “คอนนิจิวะ” นอกจากนี้เขายังให้สัมภาษณ์ว่าอยากกลับมาดูดอกซากุระอีกครั้ง

This vateran soldier. Has fought in Sakhalin island, Russia. After the war end. He had MIA

Sakharin island(Japanese common map)



ทหารผ่านศึกรายนี้เข้าร่วมในกองทัพขององค์สมเด็จพระจักรพรรดิ เพื่อร่วมรบบนเกาะซักการิน ของรัสเซีย

He can't contact back to family, and Japan governor has been declare that he dead in 2000A.D.

และเมื่อสงครามสิ้นสุด ตัวเขาได้หายสาบสูญไป และไม่สามารถติดต่อกับครอบครัวได้ตั้งแต่ปี 1958 ขณะที่



wiudwing.blogspot.com(Thanks for credit)

รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศให้ทหารรายนี้เสียชีวิตเมื่อปี 2000 แต่กลับมีคนไปพบว่ายังมีชีวิตอยู่กับภรรยาใน
,But he still alive in Ukrain. Uwano Ukrain has returned to Japan. With Anatory(37) his son
ยูเครนอูวาโนะได้เดินทางกลับมาญี่ปุ่น พร้อมกับอนาโตลีลูกชายวัย 37 ปี ซึ่งขณะเดินทางถึงสนามบิน ทัพ
So many repoter has tried to interview. He said Soviet forced him to must not and never contact his family.
นักข่าวจำนวนมากรอต้อนรับกลับประเทศ ทั้งนี้เขาได้ให้เหตุผลว่าสหภาพโซเวียตได้สั่งห้ามไม่ให้เขาติดต่อ Fortunately after the war end. Government has told his family.That he wasn't dead and deliverhim back to home. Last year
กลับไปยังครอบครัว หลังสงครามสงบทั้งนี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้ยืนยันว่าพบตัวอูวาโนะเมื่อปีที่แล้ว พร้อมทั้ง
Anyway Japanese embassery of Ukraine have got all of details from the villagers. Who lives in
จัดการให้ทหารผ่านศึกรายนี้ได้เดินทางกลับบ้าน ซึ่งทางสถานทูตญี่ปุ่นในกรุงเคียฟได้รับแจ้งเรื่องนี้ จาก
the same place as him. However he has return as Ukrain. And he has been to Japan with
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเมืองเดียวกันกับที่อูวาโนะอาศัยอยู่อย่างไรก็ตามอูวาโนะได้เดินทางกลับประเทศในhis Ukraine passport. To go back to the father land. Because his civilian detail of Japan has
ฐานะชาวยูเครน พร้อมทั้งถือหนังสือเดินทางของยูเครนในการเดินทางกลับบ้านเกิด เนื่องจากชื่อและข้อมูลalready record him as dead and deleted. Uwano has returned to Iwata. Where he was born.
อย่างเป็นทางการของเขาในญี่ปุ่นนั้น ถูกลบทิ้งออกไปแล้ว อูวาโนะจะเดินทางไปยังเมืองอิวาตะ ซึ่งเป็น
To meet his family before he return to Ukrain later. Around this 10 years Japan governor has
บ้านเกิดของเขาในวันพฤหัสบดี (20) เพื่อเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง และจะมีกำหนดการเดินทางกลับมายังdiscovered. That more than 10 soldiers wasn't dead. But declare that they were dead !?!?.
สนามบินนาริตะในวันที่ 27 เมษายน หลังจากนั้นก็จะเดินทางกลับยูเครนในวันถัดมา ในช่วง 10 ปีที่ผ่าน
Mostly they lived in China or around Asia.
มากระทรวงสวัสดิการสังคมญี่ปุ่นเปิดเผยว่ามีอดีตทหารในสงครามโลกครั้งที่ 2 มากถึง 10 คน แล้วที่ยังพบว่ามีชีวิตอยู่ หลังจากที่ทางการได้ประกาศว่าเป็นบุคคลเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในจีน และอีกหลายประเทศในทวีปเอเชีย


Hiroo onoda(19

92)

แต่กรณีนี้นับเป็นครั้งแรกที่พบเจอทหารญี่ปุ่นที่ยังหลงเหลือ
ฮิรู โอโนดะอดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองญี่ปุ่นก็พบว่าอาศัยอยู่ในป่าบนเกาะลูบัง ของฟิลิปปินส์ ซึ่งเขาและทหารของเขา
้ต่างไม่รู้ว่าญี่ปุ่นยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว
พวกเขายังคงมาที่ฐานเดิมที่อยู่ในเกาะลูซอนแต่ก็ไร้ผลจนกระทั่งชาวบ้านชาวฟิลิปปินได้กลับมาอาศัยตามเดิมแล้ว โอโนดะยังคงตัดสินใจรอให้กองทัีพญี่ปุ่นนำกำลังมาเสริม
จนกระทั่งในปี 1946กองกำลังที่มีอยู่ไม่กี่นายซึ่งก็มีไม่ถึงสิบคนยี่สิบปีผ่านไป ยังคงไล่ยิงและไล่ฆ่าชาวบ้านในเกาะลูซอนและลอบโจมตีตำรวจของฟิลิปปินเพื่อเอาอาวุธอยู่บ่อยๆ
คนของเขาเริ่มตายไปทีละคนสองคนเนื่องจากไม่มี
อาหารและยารัีกษาโรคจนกระัทั่งทหารคนสุดท้ายตายไปในปี 196X เพราะบุกเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อขโมยอาหาร
และถูกตำรวจฟิลิปปินยิงสวนจนถึงแก่ความตาย
โอโนดะยังคงซ่อนตัวอยู่คนเดียวในถ้ำของป่าลึกในเกาะลูซอน
ยังคงต่อสู้ต่อไปจนเรื่องไปถึงประเทศญี่ปุ่น
ทางญี่ปุ่นจึงใคร่จะขอตัวเขากลับแต่พอไปถึงเขากลับวิ่งหนีเพราะนึกว่าเป็นเล่ห์กลของกองกำลังพันธมิตรเพื่อหลอกจับตัวเขา
เพราะงั้นทางจักรพรรดิโชวะ ฮิโรฮิโตะทรงมีพระราชโองการให้ยอมแพ้ และเอาพระราชโองการดังกล่าวไปแปะัใว้ในป่าดังกล่าวเผื่อฮิรุ จะเห็น
แต่ก็ไร้ความหมายเพราะยังคงนึกว่าเป็นเล่ห์กลของกองกำลังพันธมิตรเพื่อหลอกจับตัวเขา
จนกระทั่งวันหนึ่งนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นได้ไปเจอเขาในป่าโดยบังเอิญเขาเลยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังและขอร้องให้เขายอมแพ้
แต่เขาก็ไม่ยอมและบอกว่าให้แม่ทัพ Tomoyuki Yamashita ซึ่งเป็นผบ. ของเขาให้มาออกคำสั่งให้ยอมแพ้แล้วเขาจะยอม








นายพล โทโมยูกิ ยามาชิตะ

แน่นอนพอได้ยินเช่นนั้นรัฐบาลญี่ปุ่นก็เลยตามหาตัวนายพลโทโมยูกิ ให้ไปออกคำสั่งเขาเสียเขาเลยยอมแพ้ในที่สุด
29ปีเต็มที่เขาต่อสู้อย่างทรหด
29ปีเต็มที่เขาอดทนเพื่อรอกองทัพ
29ปีเต็มที่เขาทำตามคำสั่ง
29ปีของจุดจบของกองกำลังโอโนดะซึ่งเหลืออยู่ตัวเขาคนเดียว พร้อมๆกับ Arisaka Type 99 ที่ยังคงสภาพดีมากๆ ดาบหนึ่งเล่มกระสุน500นัดหรือ250ตับและระเบิดมือจำนวนหนึ่งที่มากพอจะระเบิดตึกไบหยก 1 ได้
Hiroo onoda(1941)Hiroo onoda(aftermath)

Japanese infantry uniform in WW2

No comments: