Can't find it? here! find it

Thursday, November 27, 2008

Egyptian languages


เฮียโรกราฟฟิกคือ การเขียนภาษาภาพอียิปต์โบราณเป็นพื้นฐานภาษาอื่นๆ มีกันมาตั้งแต่สมัยอียิปต์ ซึ่งอาจจะได้รับอิทธิพลผสมผสานกับกรีกไปด้วย มักจารึกหรือวาดลงบนกำแพงวัดเทวสถานต่างๆที่สำคัญ หรือบนอนุสาวรีย์สถานที่สาธารณะ การเขียนภาษาภาพอียิปต์โบราณสามารถแยกอย่างชัดเจนทั้งรูปภาพที่จะแสดงเสียง และแนวความคิด และถูกใช้สมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์จนกระทั่ง 396 ก่อนคริสตกาล ข้อความเกี่ยวกับภาษาภาพอียิปต์โบราณล่าสุดถูกเขียนบนกำแพงของเทวสถานของเทวีไอซิส บนเกาะของฟิเล มันถูกใช้จารึกอนุสาวรีย์บนกำแพงของวัด และสุสาน แต่ก็สามารถวาดจารึกลงเฟอร์นิเจอร์ และโลงศพ แม้แต่บนต้นกกจำพวกหนึ่งอย่างต้นปาปิรุสก็ถูกจารึก หรือวาด ผู้วาดจะสีจำนวนมากมายในการวาดแต่ละภาพนอกจากการวาดบนต้นปาปิรุสแล้วก็สามารถวาดบนผ้าลินินได้อีก. รูปแบบอักษรการคัดลายมือของการเขียนรูปเฮียโรกราฟฟิกอียิปต์โบราณถูกใช้กับบันทึกคัมภีร์มรณะ [ Book of the dead ] อักษรภาพสไตล์นี้ที่ถูกใช้กับข้อความในสุสานของสมัยราชวงศ์ที่ 18 ยุคสมัยของฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 และฟาโรห์อเมนโฮเทปที่ 2 อีกด้วย


Hiภาษาเฮียโรกราฟฟิก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ1.เฮียราติก ใช้ในภาษษราชการ ส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับภาษาทางศาสนาที่สังฆราช หรือ ฟาโรห์ และเชื้อพระวงศ์นิยมใช้ ลักษณะเป็นอักษรภาพที่นิยมใช้รูปมือแทนมากกว่า Tag คือ การสรุปคำสำคัญ เพื่อบอกว่ากระทู้นี้เกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง เฮียโรกราฟฟิกคือ การเขียนภาษาภาพอียิปต์โบราณเป็นพื้นฐานภาษาอื่นๆ มีกันมาตั้งแต่สมัยอียิปต์ ซึ่งอาจจะได้รับอิทธิพลผสมผสานกับกรีกไปด้วย มักจารึกหรือวาดลงบนกำแพงวัดเทวสถานต่างๆที่สำคัญ หรือบนอนุสาวรีย์สถานที่สาธารณะ การเขียนภาษาภาพอียิปต์โบราณสามารถแยกอย่างชัดเจนทั้งรูปภาพที่จะแสดงเสียง และแนวความคิด และถูกใช้สมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์จนกระทั่ง 396 ก่อนคริสตกาล ข้อความเกี่ยวกับภาษาภาพอียิปต์โบราณล่าสุดถูกเขียนบนกำแพงของเทวสถานของเทวีไอซิส บนเกาะของฟิเล มันถูกใช้จารึกอนุสาวรีย์บนกำแพงของวัด และสุสาน แต่ก็สามารถวาดจารึกลงเฟอร์นิเจอร์ และโลงศพ แม้แต่บนต้นกกจำพวกหนึ่งอย่างต้นปาปิรุสก็ถูกจารึก หรือวาด ผู้วาดจะสีจำนวนมากมายในการวาดแต่ละภาพนอกจากการวาดบนต้นปาปิรุสแล้วก็สามารถวาดบนผ้าลินินได้อีก. รูปแบบอักษรการคัดลายมือของการเขียนรูปเฮียโรกราฟฟิกอียิปต์โบราณถูกใช้กับบันทึกคัมภีร์มรณะ [ Book of the dead ] อักษรภาพสไตล์นี้ที่ถูกใช้กับข้อความในสุสานของสมัยราชวงศ์ที่ 18 ยุคสมัยของฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 และฟาโรห์อเมนโฮเทปที่ 2 อีกด้วย Hiภาษาเฮียโรกราฟฟิก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ1.เฮียราติก ใช้ในภาษษราชการ ส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับภาษาทางศาสนาที่สังฆราช หรือ ฟาโรห์ และเชื้อพระวงศ์นิยมใช้ ลักษณะเป็นอักษรภาพที่นิยมใช้รูปมือแทนมากกว่า 1.เดมิติก เป็นภาษษที่นิยมใช้กันทั่วๆไป...ไม่เป็นภาษาทางการ

unforgivable things:Tuol Sleng

คุกนี้เคยทำร้ายผู้ที่ตายโดยความไม่ชอบธรรม
ที่นี่เป็นทั้งโรงเรียน
โรงงานและคุกในเวลาเดียวกัน
บล็อกบี ที่สำหรับพักผ่อนบล็อกซี ลานสำหรับอะไรนั้นขอไม่พูดท่านคงไม่อยากได้ยินมัน
ที่แน่ๆนั่นไม่ใช่ตาข่าย แต่เป็นลวดหนามสำหรับกันคนฆ่าตัวตายและหนี
ห้องพักนักโทษแบบง่าย(เพราะไม่มีงบ)
คุกพิเศษสำหรับนักโทษที่ทำวีกรรมพิเศษ









พวกเขาพักผ่อนบางคนแค่ทำผิดเพียงเล็กน้อย

unforgivable things:Choeung Ek Genocide Center

นี่ก็คือหนึ่งที่เกิดขึ้นในประเทศๆหนึ่งในประเทศๆหนึ่งในประเทศเพื่อนบ้านของเรา

ที่นี่ข้างในนั้นมีคนเป็น1000แต่ไม่จ่ำกว่าหมื่นแน่ๆ


เด็กเหล่านี้มาเล่นๆแถวต้นไม้ที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าพ่อแม่ของพวกเจาบางคน(ในสมัยเด็ก)เคยโดนเฆี่ยนตีจนแทบขาดใจ

คำพูดของเด็กที่รอดซึ่งเป็นคนเดียวในนั้น(1000กว่าคน)ที่รอดและเขียนเล่าสู่การฟัง

ไต้ต้นไม้นี้เคยเป็นทุ่งที่มีคนจำนวนตามรูปอยู่ไต้นี้

bangrajaan-Strongest stronghold camp


bangrajaan-Strongest stronghold camp of Ayutthaya time
เป็นจังหวัดหนึ่งในประเทศไทยที่มีตำนานอันหาญกล้าของชาวบ้านบางระจันจารึกไว้
บางระจัน(Bangrajan)บางระจันเรื่องราว ของชาวบ้าน ๑๑ คน ที่ กลับกลาย เป็นตำนาน ด้วยต่าง หยิบดาบ สู้กับพม่า ด้วยหัวใจ กล้าต่อกร กับ ทัพพม่า ที่มี ไพรพล มหาศาล...ในเวลานั้น พม่าแบ่ง กำลังออก เป็น ๒ เส้นทาง มังมหานรธา ตีจาก ทิศตะวันตก เน เมียวสีหบดี ตีไล่จาก ทางเหนือ หวังขนาบ กรุงศรี อยุธยา ครานั้น ทัพของ เนเมียว ต้องล่าช้า ไปเนื่องจาก ติดพัน การ ต่อสู้ กับกลุ่ม ชาวบ้านที่ รวมตัว กันในนาม "บางระจัน"เนเมียวสีหบดี แค้นหนัก ที่กองทัพ ของตน พ่ายแพ้ ถึง ๓ ครั้ง จึงเพิ่ม กำลังหนัก เข้าชาว บางระจัน รบกัน อย่าง ถวายหัว แต่คราวนั้น พ่อแท่น หัวหน้า ของชาวบ้าน ถูกยิงได้รับ บาดเจ็บ ทุกคน จึงต้องหา ผู้นำคนใหม่ ขณะนั้น ข่าวการ ชนะพม่า ของบางระจัน กระจายไปทั่ว ชาวบ้าน มากมาย พากัน มารวม ตัวสู้ บางระจัน ได้ผู้ มีฝีมือ อีกสองคน มาช่วย คือ นายดอก ครูมวย จากวิเศษไชยชาญ แลนาย ทองแก้ว ครูดาบ บ้านโพธิ์ ทะเลชื่อกลุ่มโจร ของนายจัน หนวดเขี้ยว เป็นที่ กล่าวขาน ในเวลานั้น บางระจัน จึงส่ง นายอิน มือแม่นธนู นายเมือง คนหนุ่ม ใจกล้า แลพวก เสี่ยงภัย ออกจากค่าย ไปตาม นายจัน ยอมมา ช่วยบางระจัน ทันที เมื่อรู้ว่า พระอาจารย ธรรมโชติ ย้ายจาก เขานางบวช บ้านเกิด ของตน ที่วอดวาย ไปแล้ว มาจำวัด ที่บางระจัน นายจัน หนวดเขี้ยว เป็น นักรบ ประเภท ยอมหัก ไม่ยอมงอ ด้วยครั้งหนึ่ง ตนเคยเสียชีวิต ลูกเมีย ให้กับพม่าเมื่อได้เป็นผู้ นำคนใหม่ จึงเปลี่ยนแปลง บางระจัน ให้ทุกคน มีวินัย และ ไม่ทำอะไร ตามใจ ตัวเอง ทำให้ นายจัน ไม่เป็น ที่ถูกใจ ของนาย ทองเหม็น ขี้เมาพเนจร ที่ชอบ ขี่ควาย แอบออก จากค่าย ไปตีพม่า อยู่บ่อยครั้ง ไม่มีใครรู้ สาเหตุว่า นายทองเหม็น ทำอย่างนั้น เพื่ออะไร เมื่อหยุดจาก การรบ ชาวบ้าน ก็เป็นเพียง ชาวบ้าน ความรัก ของนายเมือง และ อีแตงอ่อน ลูกสาว พ่อแท่น กำลัง ก่อตัวขึ้น อย่างงดงาม พ่อแง่แม่งอน ตามประสา เช่นเดียวกับ นายอิน กับ อีสา เมียรัก ที่เพิ่ง อยู่กินกัน ความกดดัน จากสงคราม ทำให้อีสา ไม่บอกให้ นายอินว่า ตนกำลังท้อง ด้วยกลัวผัว จะเป็นกังวล นายเมือง นายอิน ต้องเสี่ยงภัย กันอีกครั้ง เมื่อต้อง เดินทางไป กรุงศรีอยุธยา เพื่อขอ ปืนใหญ่ แต่เมื่อ ไปถึงกลับ ได้รับการ ปฏิเสธ กลับมา เมื่อนายอิน กลับมา แล้วมารู้ ทีหลังว่า เมียกำลังท้อง แล้วนายปลั่ง เพื่อนรัก ที่ ร่วมรบ กันมา จนบาดเจ็บ พิษไข้ ขึ้นถึงกลับ วิกลจริต ไป ซ้ำมารู้ว่า ตนกำลัง จะมีลูก นึกแค้น พม่าหนัก นัดพา พวกล่องเรือ ไปตีพม่า ถึงในค่าย โดยไม่รู้ว่า พม่าเอง ก็แอบส่ง กำลัง มาตีบางระจัน เช่นกัน
ครั้งนั้น ด้วยใจร้อน นายอิน พาคน ไปตาย มากมาย ซ้ำกลับ มา ค่ายบางระจัน ก็ถูกตี จนยับเยิน คนตาย มากมาย ชาวบ้าน ก็พากัน อพยพ หนีไป นายจัน ท้อใจ จะ กลับไป เป็น กองโจร เหมือนเดิม หากแต่ ได้กำลังใจ อย่าง ไม่คาดคิด จากนาย ทองเหม็น ขี้เมา ที่เป็น อริกัน มาตลอด และรู้ว่า แท้จริงแล้ว นายทองเหม็น เองก็มีอดีต ที่เจ็บปวด ไม่น้อย ไปกว่าตนยามนั้น พม่าได้แต่งตั้ง นายกอง คนใหม่ นามว่า สุกี้ เข้าตี บางระจัน ทัพสุกี้ ครั้งนี้มี กองปืนใหญ่ มาด้วย บางระจัน เอาปืนใหญ่ เข้าสู้ทั้งที่ร้าว อย่างไม่มี ทางเลือก ทุกคน รู้ชะตากรรม ว่า นี่คงเป็น ครั้งสุดท้าย ของบ้าน บางระจัน แล้ว
พระอาจารย์ธรรมโชติได้ให้กำลังใจกับชาวบ้านในหมู่บ้านนี้โดยการทำพิธีสิริมงคล
แต่สุดท้ายเมืองบางระจันก็แตกในวันที่ 26กันยายน ไม่ทราบปีที่แน่ชัด

Nanjing massacre survivor:Pan kaiming


Pan Kaiming,

 เขาอายุ80กว่าๆแล้วและประกอบอาชีพพนักงานเดินสายเครื่องยนต์,
Pan พูดว่าวันที่14 ธันวาคม 1937 เขาคือหนึ่งใน 300 คนที่ถูกจับให้ยืนตั้งแถวให้รอให้ถูกยิง
Pan ถูกยิงและตื่นขึ้นซึ่งไปนอนอยู่ไต้ศพของเพื่อนข้าง
"ช้าๆ ช้าๆ เดี๋ยวก็รอดแล้ว," เขาบ่นพึมพำ "เสื้อฉันมีแต่เลือด ฉันนึกว่าฮันตายแล้วซะอีก." เขาพยายามจะล้างเลือดที่แม่น้ำแต่ปรากฏว่าแม่น้ำมีแต่เลือด
Pan พยายามหนีโดยแสร้งเป็นพนักงานส่งสาส์นของนายทหารญี่ปุ่นและหนีออกนอกเมืองไป

Wednesday, November 26, 2008

unforgivable things:Nanjing

ที่นี่คือสถานที่ๆชาวจีนอย่างผมรู้จักกันดี ในฐานะสถานที่ๆถูกสังหารหมู่ นานาวิธี
โดยกลุ่มคนซึ่งมีจำนวนทหารไม่เกิน 4000คนด้วยซ้ำ
รูปภพในวันนี้(แต่ขอไม่ลงรูปเมื่อ60-70ปีที่แล้ว)




Nanjing has many parks

เมื่อ7xปีที่แล้วเขาถูกพรากชีวิตเพราะความสนุกสนาน

สามแสนคนคือพยานสำหรับกิจกรรมนี้

Pan Kaiming,ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากหลายร้อยคนที่ถูกยิงสาดใส่ที่อยู่ไกล้ๆแม่น้ำแยงซี
ผาน คายหมิง เขาคือคนเดียวที่รอดจากการถูกกลุ่มคนสังหารในสามหมื่นคน ณ แม่น้ำหยางเซ่อ
นี่คือสถานที่ๆกำลังสร้างให้ญาติๆของพวกผม(รวมทั้งญาติของผม)ได้ทำที่พักผ่อนให้ใหม่

unforgivable thing:Auschwitz(present day picture)

มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งโหดร้าย ทารุณ จนน่ากลัว จนถึงขนาดคำ ขอโทษเป็นเรื่องที่น่าไม่ให้อภัย

อาวชวิชส์เป็นสถานที่ผมขอโทษถ้าหากสิ่งที่ผมตีแผ่กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ใครเดือดร้อนล่ะก็ ผมก็ขอโทษนะครับ

โปรดใช้พิจารณญาณในการรับชม

นี่คือเส้นทางที่ทุกคนที่เป็นชาวยิวจะต้องผ่านเข้า

AuschwitzAuschwitz














รั้วไฟฟ้าสำหรับกันนักโทษหนี




บางครั้งหากคุณไปที่นี่คุณก็ระวังเตะโดนสิ่งที่นอกเหนือจากหินละกันกิกิกิ






ข้างในตัวค่าย



แด่ผู้ที่ถูกย่าง








ห้องรมควัน

ห้องมืดพิเศษ

ห้องที่ได้รับการบูรณะ เดิมทีเป็นห้องพักที่แสนจะอบอ้าว(สุดจะตับแลบ)

สิ่งของที่ยังคงหลงเหลือสิ่งมันถูกปกป้องโดยสภาพแวดล้อมที่ทำให้มันอยู่ในสภาพดี(เตียง ตู้ เครื่องเรือนทั้งหลายแหล่)

เตียงพิเศษที่เหมาะสำหรับคนพิเศษ


ผู้ที่ล่วงลับทั้งหมดที่เคยอยู่ที่นั่นแล้วทนไม่ไหวแล้วกลายเป็นอาจารใหญ่ อาจารย์ใหญ์จะได้รับเกียรติได้ไปนอนในนี้
ช่องที่ๆผมรับรองว่าถ้าคุณเป็นพัสดีในตึกนี้คงไม่กล้าเข้าไกล้



Auschwitz I
เดิมทีเป็นเช่นนี้แต่ถูกทิ้งร้างไป55ปีจนได้รับการบูรณะใหม่ซึ่งยังคงบูรณะอยู่
ที่พังลงมาแล้ว