Can't find it? here! find it

Tuesday, April 14, 2009

Biography of Ghengkis khan


เมื่อ เจ็งกีสข่านตายนั้น จักรวรรดิมองโกลกว้างใหญ่มาก จนกล่าวกันว่าถ้าควบม้าจากชายแดนด้านหนึ่งไปสุดอีกด้านหนึ่งต้องใช้เวลาถึง หนึ่งปีดินแดนเหล่านี้ลูกชายทั้งสี่ของ

เจ็งกีสข่านคือโจจิ ซาเฮอไถ วอเคอไต และเซลุย ได้แบ่งกันครอบครองต่อมา
โจจิและสายสกุล * โจจิเป็นลูกชายคนโตของเจ็งกีสข่าน (แต่ตามความจริงแล้วเป็นลูกของพวกเมอร์คิทที่ติดท้องผู่เอ๋อร์เถี่ยมา) ก่อนที่เจ็งกีสข่านจะยกทัพใหญ่ไปปราบดินแดนวาซือจือมอ มีผู้เสนอให้เจ็งกีสข่านตั้งทายาทสืบตำแหน่งไว้ โจจิกับซาเฮอไถทะเลาะกันเพราะเรื่องแย่งชิงตำแหน่งนี้ เซลุยเสนอชื่อพี่ชายคนที่สาม ในที่สุเจ็งกีสข่านแต่งตั้งวอเคอไตเป็นรัชทายาท เมื่อบิดาตายวอเคอไตจึงได้ตำแหน่งมหาข่านเป็นประมุขของชาวมองโกลและดินแดน ที่อยู่ใต้อำนาจมองโกลทั้งหมดแต่แบ่งเขตแดนให้พี่น้องไปเป็นข่านปกครองต่อ มา.-
เขตปกครองจองโจจิเรียกว่าอาณาจักรซินชาข่าน ปัจจุบันอยู่ในสหภาพโซเวียตแถบทะเลสาบ Aral เรื่อยมาไปจนถึงลุ่มแม่น้ำวอลก้าของรัสเซียในยุโรป โจจิเป็นข่านอยู่ไม่นานก็ตายเมื่ออายุเพียง 49 ปี มีลูกสิบกว่าคนลูกชายคนรองชื่อ ป๋าตู สืบนำแหน่งต่อมา ได้ขยายอาณาจักร ชินชาข่านออกไปอีกมาก จนชาวยุโรปรู้จักดีในนามอาณาจักรกระโจมทอง


ปี พ.ศ. 1780 เมืองขึ้นของจักรวรรดิมองโกลแถยโซเวียตรุสเซียหลายเมืองเป็นกบฏ วอเคตอไตมหาข่านบัญชาให้หลานคนโตจของเจ็งกีสข่านทั้งสี่สายสกุลยกทัพร่วมกัน ไปปราบ ป๋าตูได้เป็นแม่ทัพใหญ่ มองโกลปราบกบฏได้อย่างรวดเร็ว บุกยึดได้กรุงมอสโคว์ แล้วป๋าตูแบ่งทัพออกเป็นสามสายแยกกันไปตียุโรป ยึดยุโรปตะวันออกได้ทั้งหมด ตีทัพผสมของเยอรมันกับโปแลนด์และทัพฝรั่งเศสกับพันธมิตรพินาศย่อยยับพวก มองโกลตัดหูเชลยศึกร้อยเป็นพวง สร้างความหวาดผวาให้แก่ชาวยุโรปมาก ทัพมองโกลทั้งสามสายบรรจบฉลองชัยชนะกันที่แม่น้ำดานูบ แล้วบุกเข้าประชิดเมืองเวนิสของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Holly Roman Empire) เผอิญวอเคอไตมหาข่านตาย ทัพมองโกลจึงยกกลับรวมเวลาบุกยุโรปอยู่ 6 ปี
ถ้าวอเคอไตไม่ตายยุโรปทั้งทวีปอาจตกอยู่ใต้อำนาจมองโกลก็ได้เพราะการรบครั้ง นั้นมองโกลเอาดินปืนของจีนไปประดิษฐ์เป็นปืนไฟอย่างหยาบๆทำให้ทหารยุโรปตื่น กลัว ปืนไฟในครั้งนั้น เป็นแรงดุงดูดให้ชาวตะวันตกอย่างพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 ส่งฑูตมาดูงานทหารของมองโกลถึงกรุงคาราโครัมในระยะต่อมา
หลังบุกยุโรปครั้งนี้แล้ว อาณาจักรชินชาข่านขยายออกไปอีกมากประมุขมองโกลของอาณาจักรนี้ได้ยึดครองดิน แดนของโซเวียตรุสเซียต่อมาอีกช้านาน จนถึงสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช รุสเซียจึงตีชิงแว่นแคว้นเหล่านี้ไปได้ ดินแดนแถบชายฝั่งทะเลดำนั้นมองโกลสามารถปกครองมาได้จนถึง พ.ศ. 2316
ซาเฮอไถและสายสกุล * ซา เฮอไถเป็นคนอารมณ์ร้ายมุทะละแต่เข้มแข็งเด็ดขาด แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง ตัดสินปัญหาได้เที่ยงตรงยุติธรรม จึงได้เป็นที่ปรึกษาแก้ปัญหาสำคัญให้วอเคอไตน้องชายผู้เป็นมหาข่านอยู่เสมอ
ซาเฮอไถได้ปกครองดินแดนแถบซินเกียง อัฟกานิสถานและบางส่วนของโซเวียตรุสเซียในปัจจุบัน เรียกรวมกันว่าอาณาจักรซาเฮอไถข่าน ลูกชายคตนโตของซาเฮอไถ ชื่อ มู่ถูเกินเป็นหลานที่เจ็งกีสข่านรักที่สุดแต่ไปตายเสียคราวจีเมืองสะมาระกัน เป็นเหตุให้เจ็งกีสข่านแค้นมากเมื่อตีเมืองนี้ได้จึงสั่งฆ่าคนหมดเมือง ลูกชายของมูถูเกินชื่อปู้หลี่ ภายหลังถูกป๋าตูฆ่าตาย


วอเคอไตและสายสกุล* วอเคอไตได้เป็นมหาข่านเพราะการสนับสนุนของเซลุย – และซาเฮอไถ ภายหลังได้รับชื่อตามประเพณีว่าหงวนไท้จง (หยวนไท่จง) ฮ่องเต้ วอเคอไตเป็นคนสุขุม ฉลาดรอบคอบมนุษย์สัมพันธ์ดี ซื่อสัตย์ยุติธรรม ดินแดนปกครองที่แท้จริงของวอเคอไต คือจีนภาคเหนือและบางส่วนของโซเวียตรุสเซีย อันแป็นปริมณฑลรอบๆดินแดนมองโกลแท้ เรียกรวมกันว่า อาณาจักรวอเคอไตข่าน แต่ประมุขของอาณาจักรนี้มีฐานะเป็นมหาข่านของจักรวรรดิมองโกลทั้งหมด ในรัชกาลนี้ทัพมองโกลบุกตีโซเวียตรุสเซียและยุโรปตะวันออกได้ทั้งหมดดัง กล่าวแล้วข้างต้น
เมื่อ วอเคอไตตายที่ประชุมเลือกลูกชายคนโตของวอเคอไตชื่อกุ้ยหยิวเป็นมหาข่านสืบ ต่อมา แต่อยู่ในตำแหน่งเพียงสามปีก็ตาย จากนั้นตำแหน่งประมุขรวมของจักร์วรรดิ์มองโกลตกแก่สายสกุลยองเซลุยลูกชายคน ที่สีของเจงกีสข่านไปตลอด
เซลุยและสายสกุล *กิมย้งกล่าวถึงเซลุยไว้ในเรื่องมังกรหยกว่าสาบานเป็นพี่น้องกันกับก๋วยเจ๋งหนีรอดจากการจับกุมตัวของเจ็งกีสข่าน


เซลุยเป็นลูกชายคนที่เจ็งกีสข่านรักมากที่สุด เรียกว่า ‘ลูกเคียงกาย’ ได้รับใช้ใกล้ชิดพ่ออยู่ตลอดเวลาอีกทั้งเป็นคนฉลาดหลักแหลม บริหารงานเก่ง จึงเป็นที่รักเคารพของแม่ทัพนายกองทั้งหมด เมื่อเจ็งกีสข่านตายเซลุยได้รับกองทหารที่แกร่งกล้าเจนศึกที่สุดของพ่อ และเป็นลูกคนเดียวที่รักษาการอยู่ในดินแดนมองโกลแท้จึงเป็นคนกุมอำนาจที่แท้ จริง
ตามประเพณีของมองโกลประมุขต้องมาจากการเลือกตั้ง แม้ วอเคอกไตจะเป็นรัชทายาทอยู่ แต่ตัวเองและที่ประชุมกลับเลือกเซลุยเป็นประมุขต่อจากเจ็งกีสข่าน ทว่าเซลุยเป็นคนกตัญญูและเห็นการณ์ไกลจึงยืนยันขอทำตามคำสั่งบิดา ให้วอเคอไตเป็นมหาข่านที่ประชุมอนุมัติ ตัวเซลุยเองได้ปกครองดินแดนมองโกลแท้ ยังคงมีอำนาจจริงอยู่ในมืออย่างเต็มที่วอเคอไตเกรงใจมาก กิจการสำคัญของบ้านเมืองล้วนมอบให้เซลุยเป็คนตัดสินใจ และยกย่องให้เป็น ผู้กำกับราชการแผ่นดิน
แต่เซลุยเป็นคนกตัญญูอย่างแท้จริงคนหนึ่งเมื่อมองโกลพิชิตไต้กิมก๊กตีได้ กรุงปักกิ่งเมืองหลวงของพวกกมแล้ว วอเคอไตป่วยหนัก พูดไม่ได้พ่อมดประจำเผ่าทำนายว่าเพราะทัพมองโกลฆ่าชายแมนจูมากเทพยาดาฟ้าดิน จึงลงโทษ ต้องให้ญาติสนิทของมหาข่านคนหนึ่งรับโทษแทน เซลุยพูดกับพ่อมดว่า “ ข้ารับปากพ่อว่าจะช่วยพี่วอเคอไตเต็มความสามารถฉะนั้นข้ายินดีตาย แทนพี่ ท่านทำพิธีเถอะ” พ่อมดจึงทำพิธีพลีกรรมแล้วเอาน้ำมนต์ให้เซลุยกิน เซลุยฝากฝังลูกเมียกับวอเคอไตได้ไม่นานก็ตาย และอาการป่วยของวอเคอไตก็หายจริงๆ กิมย้งวิจารณ์ว่านี่อาจจะเป็นแผนของวอเคอไต แต่พระราชพงศาวดารราชวงศ์หยวนสรรเสริญเซลุยมาก
เซลุยเป็นดั่งเทพเจ้าของชาวมองโกล วอเคอไตก็ซาบซึ้งน้ำใจมากสั่งการไว้ว่าถ้าตนตายแล้ว ขอมอบนำแหน่งมหาข่านให้แก่ลูกชายคนโตของเซลุย แต่พอถึงเวลาจริงที่ประชุมกลับมอบตำแหน่งให้กุ้ยหยิวซึ่งอยู่ในตำแหน่งเพียง สามปีก็ตาย
ชนชั้นหัวหน้าของมองโกลได้ประชุมเลือกประมุขกันในอาณาจักรชินชาข่าน ลงมติให้เชิญป๋าตู ลูกชายของโจจิเป็นมหาข่านคนต่อไปเพราะ มีอาวุโสสูงสุดและแกล้วกล้าสามารถในการศึกษาสงครามมากเคยนำทัพลุยยุโรปมา แล้วแต่ป๋าตูเป็นคนฉลาด รู้ดีว่าพวกสายชาเฮอไถและวอเคอไตไม่ยอมรับตนอย่างจริงใจ จึงหนุนให้เหมิงเกอลูกชายคนโตของเซลุยรับตำแหน่งแทนตน ที่ประชุมยอมรับ เมียของกุยหยิวค้านว่า การประชุมเลือกประมุขตามประเพณีต้องทำในดินแดนมองโกลแท้ ป๋าตูจึงให้เปิดประชุมใหม่ในปีถัดไปที่แดนมองโกลแท้ทางภาคตะวันออก แต่ได้ให้น้องชายยกทัพไปคุมเชิงอยู่ ตัวเองคุมทัพอีกกองหนึ่งเตรียมพร้อมอยู่ที่อาณาจักรชินชาข่าน กองทัพของสายสกุลโจจิ และสายสกุลเซลุยเข้มแข็งที่สุด ป๋าตูและเหมิงเกอสนิทสนมกันมากตั้งแต่ครั้งไปตียุโรป พวกสายวอเคอไตและชาเฮอไถเห็นว่าไม่มีทางคานอำนาจได้ต้องยอมรับ เหมิงเกอเป็นมหาข่านในการปรชุมครั้งที่สองอีก
เหมิงเกอได้ชื่อกษัตริย์ตามประเพณีจีนว่าหวงนเหียนจง (หยวนเสวียนจง) ฮ่องเต้เป็นประมุขที่มีปรีชาสามารถมากคนหนึ่งของมองโกลชั่วเวลาเก้าปีที่ เป็นมหาข่านอยู่ตีได้ทิเบต น่านเจ้า เกาหลี อินเดียตอนเหนือ อิหร่าน อิรัค และตะวันออกกลางทั้งหมด แต่มาได้รับบาดเจ็บคราวตีเมืองจุงกิง (ฉงซิ่ง) ในมณฑลเสฉวน จนถึงแก่ความตาย
พอเหมิงเกอข่านตาย กุบไลลูกชายคนที่ 4 ของเซลุยและอาลีปุ๊เกอลูกชายคนที่ 7 ของเซลุยแย่งชิงอำนาจกัน ในที่สุดต้องยอมแพ้พี่ กุบไลข่านเป็นข่านได้ยี่สิบปีจึงพิชิตราชวงศ์ซ้อง ยึดครองจีนได้ทั้งหมดเมื่อ พ.ศ. 1822 เฉลิมพระนามตามประเพณีจีนว่าหงวนสีโจ๊ว (หยวนสื้อจู่) ฮ่องเต้และถวายพระนามแบบจีนให้กษัตริย์มองโกลตั้งแต่เจ็งกีสข่านลงมาทุก พระองค์








กุบไลข่านเป็นกษัตริย์มองโกลที่มีพระปรีชาสามารถมากที่สุด ขยายอาณาเขตออกไปอีกอย่างกว้างขวาง ตีได้ ญวน จามปา พุกามและยกทัพใหญ่ไปตีญี่ปุ่น มีไพร่พลถึงสองแสนคน แต่ชาวมองโกลไม่ชำนาญเรื่องทะเล ยกทัพผิดฤดูกาล กองทัพจึงถูกลมไต้ฝุ่นตายหมด เป็นการพ่ายแพ้ครั้งยิ่งใหญ่เพียงครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ของมองโกหลตั้ง แต่ยุคเจ็งกีสข่านไปจนถึงกุบไลข่านแต่แพ้ภัยธรรมชาติไม่ใช่แพ้ฝีมือศัตรู กิมย้งวิจารณ์ว่าถ้ากุบไลข่านรอเวลาให้พ้นฤดูไต้ฝุ่นอีกเพียงสองเดือนก็จะ ยึดครองญี่ปุ่นได้อย่างแน่นอนกุบไลข่านอายุยืน ตายเมื่ออายุ 80 ปี

ลูกชายคนที่หกของเซลุยชื่อสี้เลี่ยววู่ เป็นผู้นำทัพมองโกลบุกตะวันตกเป็นครั้งที่สาม ครั้งแรกเจ็งกีสข่านเป็นผู้นำตีได้ซินเกียงและรัสเซียบางส่วน ครั้งที่สองป๋าตูเป็นคนนำ ตีรัสเซียได้ทั้งหมดถึงกรุงมอสโคว์และยุโรปตะวันออก
การบุกตะวันตกครั้งที่สามเกิดจากพวกอิสลามนิกาย Assassin เป็นต้นเหตุ พวกนี้ส่งมือสังหารมาก่อการร้ายในจักรวรรด์มองโกลแถบอัฟกานิสถาน และรอบๆทะเลสาบแคสเปี้ยนอยู่เสมอๆ เหมิงเกอข่านจึงส่งสี้เลี่ยววู่น้องชายคนที่หกยกทัพไปปราบ

Assasin sample picture

พวกอิสลามเป็นนักรบชั้นเยี่ยมพวกหนึ่ง สถาปนาจักรวรรดิมุสลิมขึ้นได้ในช่วงที่ราชวงศ์ถังปกครองจีนเข้ายึดครองกรุง เยรูซาเล็ม จนเกิดสงครามครูเสดถึงร้อยกว่าปี กษัตริย์ในยุโรปยกทัพผสมของพวกคริสต์มาตีกรุงเยรูซาเล็มคืนถึงแปดครั้งก็ไม่ สำเร็จ แต่สี้เลี้ยววู่ นำทัพมองโกลออกปราบเพียงครั้งเดียว ก็ทำลายศูนย์กลางของพวกมุสลิมนิกาย Assassin ย่อยยับและบุกตีต่อได้กรุงแบกแดดอันเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิ์มุสลิมกาหลิบ แห่งเมืองแบกแดดถูกจับได้พร้อมทรัพย์สินมากมาย สี่เลี้ยววู่ สั่งให้กาหลิบกินทรัพย์สมบัติเหล่านั้นต่างข้าวจนอดตายไปเจ็ดวันต่อมา ทัพมองโกลตีได้อิรัก ซีเรีย ตุรกี และเอเชียตะวันตกทั้งหมด พวกมุสลิมหนีไปรวมกันที่อียิปต์ ทำให้อียิปต์เป็นศูนย์กลางของศาสนาอิสลามต่อมา ทัพมองโกลกำลังจะบุกต่อ พอดีมีข่าวแจ้งมาว่าเหมิงเกอข่านตายการบุกอียิปต์จึงยุติลง ส่วนด้านยุโรปนั้นทัพมองโกลบุกยึดได้ถึงเกาะไซปรัส

สี้เลี่ยววู่รวบรวมดินแดนแถบตะวันออกกลางและเอเชียตะวันตกทั้งหมด ตั้งแต่อิหร่านไปจนถึงตุรกีสถาปนาเป็นอาณาจักร์อีเอ๋อร์ข่านโดยตนเองเป็นผู้ ปกครองเป็นอิสระจากจักรวรรดิ์มองโกล – จีนของกุบไลข่านและส่งทูตไปขอราชธิดาของจักรพรรดิแห่งโรมันตะวันออก จักรพรรดิโรมันตะวันออกไม่กล้าปฏิเสธ แต่ส่งธิดาซึ่งเกิดกับสามัญชนชื่อมาเรียมาให้เมื่อมาถึงสี้เลี้ยววู่ตายแล้ว อาปาเธอลูกชายจึงได้นางแทนพ่อ เจ้าหญิงมาเรียเป็นผู้นำคริสต์ศาสนามาเผยแพร่ในอาณาจักรอีเอ๋อร์ข่านและเป็น สะพานเชื่อมสัมพันธไมตรีของอาณาจักรนี้กับอาณาจักรต่างๆในยุโรปถึงขั้นส่ง ทูตไปมาถึงกันอยู่ตลอดเวลา
ลูกสาวของเจ็งกีสข่าน* เจ็ง กีสข่านมีลูกสาวหลายคน คนหนึ่งชื่ออาหลาไห่เบี๋ยจี๋ เป็นหญิงสาวที่ปรีชาสามารถมาก ทุกครั้งที่เจ็งกีสข่านออกสงครามใหญ่ เช่นคราวปราบ วาซือจือมอ ลูกชายทั้งสี่ตามไปในกองทัพหมด จึงมอบหมายให้ลูกสาวคนนี้เป็น “ผู้สำเร็จราชการ” เธอก็บริหารราชการแผ่นดินได้อย่างเรียบร้อยแม้งานฝ่ายทหารขุนพลมูวาลี ผู้อยู่ป้องกันรักษาดินแดนมองโกลมีปัญหาใดก็จะขอคำแนะนำจากเจ้าหญิงองค์นี้ เสมอลูกสาวเจ็งกีสข่านอีกคนหนึ่งชื่อ ปู่อี้เซ่เคอ บิดายกให้หัวหน้ามองโกลกลุ่มหนึ่ง หัวหน้าคนนั้นเห็นว่านางรูปร่างไม่สวยจึงไม่ยอมรับ เจ็งกีสข่านโกรธมากสั่งให้ประหารชีวิตหัวหน้าคนนั้นทันที กิมย้งอาจเอาเรื่องเจ้าหญิงสององค์นี้มาดัดแปลงแต่งเป็นตัววาเจนกงจู้ขึ้นก็ ได้

No comments: