Can't find it? here! find it

Wednesday, August 13, 2008

Ann frank

บันทึกลับของสาวน้อย

วันนี้ (4 สิงหาคม 2551) ผมขอเขียนเรื่องนี้ต่อเนื่อง เพื่อเป็นเกียรติแก่ คุณแอนน์ แฟรงค์ ซึ่งตำรวจลับเกสตาโป พบเธอและครอบครัวชาวยิว ที่หลบซ่อนตัวจากทหารเยอรมัน ในวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2487 ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งช่วงนั้นความเกลียดชังของทหารนาซีที่มีต่อชาวยิว แพร่ขยายจนถึงขั้นมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันอย่างโหดร้าย ซึ่งเรื่องราวนั้นได้ถูกถ่ายทอดไว้ในไดอารี่ของเธอ “บันทึกลับของแอนน์ แฟรงค์” อ่านเรื่องย่อได้ที่นี่ครับ ต่อมามีคนเอาไปทำเป็นหนังด้วย ซึ่งทำให้แอนน์ แฟรงค์ และไดอารี่นี้ กลายเป็นสัญลักษณ์และบทเรียนที่สำคัญ ที่คนรุ่นหลังอย่างเรา จะได้เรียนรู้จากบันทึกความโหดร้ายในอดีตกันต่อไป

ทำไมนาซีถึงได้โหดเหี้ยมนัก? รายละเอียดยาวๆ ลองอ่านดูจากบทความนี้นะครับ

ต้นเหตุของเรื่องนี้เกิดจาก ผู้นำเผด็จการอย่างฮิตเลอร์ ได้ชักจูงทางความคิดกลุ่มนาซีให้เชื่อว่า เชื้อชาติอารยันเป็นสายเลือดบริสุทธิ์ของคนเยอรมัน ที่เหนือกว่ามนุษย์ทุกเผ่าพันธุ์ในโลก จึงได้นำชาวนาซีมาขยายเผ่าพันธุ์อารยัน และเหยียดหยามเผ่าอื่นโดยเฉพาะชาวยิว เกลียดกันมากถึงขนาดสร้างห้องรมแก๊สฆ่าหมู่อย่างไร้ความปราณี

Arya ก็คือ “อารยะ” ในภาษาไทยซึ่งมีความหมายอย่างเดียวกัน สองคำคือ “อารยะ” และ “อารยัน” จึงโยงใยกันอย่างใกล้ชิด (”อารยะขัดขืน” ฟังดูยิ่งน่ารักขึ้นอีก) ซึ่งหมายถึงความสูงส่ง ความศิวิไลซ์ ความมีเกียรติและคุณธรรม - เป็นข้อเขียนของ
อาจารย์ วรากรณ์ สามโกเศศ ซึ่งผมอ่านแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า จะมีใครที่มีความคิดว่ากลุ่มของตนสูงส่ง มีคุณธรรมสูง และเพราะพวกฉันมีอารยะสูงส่ง พวกฉันจึงควรอยู่และขยายเผ่าพันธุ์ต่อไป แต่ถ้าใครต่างจากฉัน และไม่ใช่พวกฉันนั้นถือว่าต่ำ
ช้าสามานย์ จึงสมควรที่จะถูกต่อต้านและถูกกำจัดไป เหตุการณ์ทำนองนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้อีกหรือไม่? บทเรียนจากไดอารี่ของสาวน้อยนี้จะได้ใช้สอนใจคนยุคนี้หรือไม่ หรือเธอจะตายฟรีไป โดยพวกเราไม่มีโอกาสได้เรียนรู้และฉุกคิดกันเลย?

ขอกลับไปคุยเรื่องหนัง 2001: A Space Odyssey ให้จบนะครับ เพื่อเป็นความต้องการของตัวเอง โดยไม่สนใจเล้ยว่าคนอ่านจะชอบรึเปล่า ฮ่าๆๆ ก็อยากเล่านี่นา จากตอนแรกเรื่องเจ้าลิงขี้กลัว ช่างสงสัย แต่รวบรวมความกล้า ลุย ใช้เครื่องมือชิ้นแรกในโลกมา แล้วก็เลยวิวัฒนาการเป็นคนกะเขาซะที.. ตัดวูบไปเลยครับ ซึ่งต่อจากนี้ผมจะไม่เล่าเรื่องทั้งหมดหรอกนะ ใครที่อยากดูจริงๆ คงต้องไปหาแผ่น DVD ดูเอาหน่อยครับ ซึ่งผมขอสารภาพผิดไว้ ณ ที่นี้เลยว่า ผมหาซื้อแผ่นแท้ไม่ได้ (แป่ว…) เลย
ต้องหันไปใช้บริการ เทปผี ซีดีเถื่อน แทน ด้วยความอยากดูจัด บนปกมีภาษาจีนด้วยนะ

วิวัฒนาการของมนุษย์ก็พาไปพบ เจ้าแผ่นหินแห่งความท้าทายอีกครั้งบนดวงจันทร์ คราวนี้มนุษย์กล้าขึ้นมากแล้ว ช่างไม่กลัวอะไรบ้างเลย คนหลายคนกล้าที่จะไปยืนถ่ายรูปใกล้ๆ กับมัน จากนั้นจึงพบว่าถ้าอยากจะเจอกับต้นตอของเจ้าสิ่งนี้ก็จะต้อง
ไปถึงดาวพฤหัสเลยครับ ซึ่งในการนี้มนุษย์ก็ได้ลงทุนจริงๆ เพราะลูกเรือบางคนก็ต้องตื่นอยู่ ซึ่งบนยานก็น่าเบื่อสุดๆ นอกจากเล่นหมากรุก อาบแดดเทียมๆ ดูทีวี กินอาหารที่ดูไม่น่าจะอร่อยหน้าตาแหยะๆ แถมยังเดินทางกันนานหลายปี ลูกเรือส่วน
หนึ่งจึงต้องถูกแช่แข็งเอาไว้ด้วย เหมือนหมีจำศีลเลย สมาชิกบนยานนอกจากจะมีคนแล้ว ยังมีเจ้าคอมพิวเตอร์สุดแสนฉลาดชื่อ HAL 9000 (ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือบังเอิญ ที่ตัวย่อ IBM นั้นคือตัวอักษรก่อนตัวย่อ HAL หนึ่งตัวพอดี) ซึ่งเจ้าคอมพิวเตอร์นี้
ฉลาดแสนรู้ไปซะทุกเรื่องแถมยังไม่เคยทำงานผิดพลาดอีกเลย

ในสายตาของเจ้าคอมพิวเตอร์ HAL 9000 ผมเดาเอาว่ามันคงมองไปที่คนอย่างเราๆ แล้วก็คิดว่า

“แกนี่ช่างน่าเบื่อเสียจริง ทำอะไรก็สู้ฉันไม่ได้หรอก ฉันฉลาดกว่าแกเยอะนัก
ฉันคือมันสมองของโลกใบนี้ ส่วนแกนั่นแหละเป็นเครื่องมือของฉัน ฉันคือสุดยอดแห่งโลกนี้ฉันไม่ต้องการมนุษย์อย่างพวกแก อีกต่อไปแล้ว
ฉันมีอายุยืนยาว เดี๋ยวพวกแกก็ตายแล้ว … บลา บลา บลา…”

ดังนั้น ถ้าฉันกังวลว่าพวกแกจะทำให้ภารกิจนี้ผิดพลาด ฉันจะจัดการพวกแกซะให้หมด … โอ้… มันเล่นเราเข้าให้แล้ว

แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ… เมื่อความท้าทายโผล่มา สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของบางคนก็มีเหมือนกัน เมื่อไม่กลัวตายซะอย่าง ความกล้าหาญของคนก็สามารถทำสิ่งยากๆ จนได้ และสุดท้ายต่อให้เจ้าคอมพิวเตอร์สูงส่งเหนือระดับขนาด
ไหน ก็ต้องออกอาการกลัวตาย และพ่ายแพ้ต่อไขควงตัวเดียว!

ฉากสุดท้ายที่ดาวพฤหัส จะทำให้ทุกคนงงเต้กมาก วิธีการดูไม่ให้งง คือ การเชื่อในสิ่งที่เหนือธรรมชาติ (Super Natural) ดังนั้น อย่าไปจริงจังมากว่า ในอวกาศจะมีห้องสวยๆ ได้ยังไง ให้ดูเป็นแนวคิดเชิงปรัชญาอย่างเดียวครับ สิ่งที่มนุษย์ผู้กล้าทุกคน
จะต้องเผชิญ คือ ความตายของตัวเอง

เมื่อใกล้จะตายแล้ว เราจะสำนึกกันได้หรือยัง… เราพึ่งพาเครื่องจักรมากไปหรือเปล่า… แก้วไวน์แตก แต่ไวน์ยังอยู่นะ… ดังนั้น อย่าลืมว่าเมื่อร่างกายสลายไป แต่ดวงจิตก็ยังอยู่ และมันจะพาคุณไปที่ไหน ขึ้นสวรรค์ หรือ ลงนรก หรือไปจุติเป็น Star Child แบบในหนัง? คุณนั่นแหละเป็นคนกำหนดเอง

หมั่นทำความดีกันไว้หรือยัง? เพราะถ้าสะสมแต่เรื่องเรื่องไม่ดีมากๆ เดี๋ยวตอนตายคงสำนึกกันละครับ เวลาดวงจิตมันถูกดูดไปรวมกับเรื่องไม่ดีทั้งหลาย

=== ดูละครแล้วก็ย้อนดูตัวล่ะครับ ===

การเหยียดหยามกัน เช่น เหยียดเชื้อชาติ ศาสนา หรือแม้แต่เหยียดว่าฉันเหนือกว่าด้วยเหตุอะไรก็ตาม

คนที่คิดเหยียดหยามคนอื่น ก็คงคิดไม่ต่างจาก หุ่นยนต์คอมพิวเตอร์ HAL 9000 คิด ซักเท่าไหร่ สักวันหนึ่งหากรุนแรงมากเข้า ก็อาจเกิดการทำร้ายกันได้ ทั้งทางร่างกายหรือจิตใจ หรือจนถึงแก่ชีวิต เราคงไม่อยากเห็น นาซี ฮิตเลอร์ หรือ เผด็จการฆ่า
ล้างเผ่าพันธุ์ คนใหม่ถือกำเนิดขึ้นมาอีกในโลกใบนี้หรอกนะครับ


ชาติ ก็เป็น เครื่องมืออย่างหนึ่ง ที่มนุษย์คิดค้นขึ้นมา จากเดิมที่ลิงยังคิดได้ว่า อยู่รวมกันเป็นเผ่าดีกว่า เพราะปลอดภัยกว่าอยู่แยกๆ กัน พอเผ่ามันใหญ่ขึ้นก็ยังรบราฆ่าฟันกันต่อ จนเป็นเมือง เป็นรัฐ และเติบโตเป็นชาติ เพื่อความอยู่รอดของคนส่วนใหญ่

เมื่อช่วงต้นปี ผมฉุนขาดมาก ที่มีคนทำคลิปวิดีโอ รูปธงชาติไทย ติดตราเครื่องหมายของฮิตเลอร์ ผมยอมไม่ได้ โวยวายไปเยอะครับ มันเรื่องอะไร ชาวไทยเราเคยทำอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดนั้นเลยเหรอ มันกล่าวหากันเกินไปครับ

และเรื่องที่นำรูปคนมาตัดต่อเป็นลิง ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจของคนไทยอีก เถอะครับ มันเป็นการหยามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ชัดๆ ไม่ใช่ Freedom of Speech สักนิด

โชคยังดีที่มีหลายฝ่ายช่วยเหลือกัน จนสามารถจัดการลบไปได้แล้ว แต่สุดท้ายก็จับมือใครดมไม่ได้ ไม่รู้ใครเป็นคนทำ

ก็ขอฝากบอกตรงนี้เลย ถึงคนทำคลิปพวกนี้ด้วยว่า คุณอยากวิจารณ์อะไรก็ทำไปเถอะครับ เพราะนั่นคือเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่อย่าให้มันเลยเถิดมากไป จนเกินขอบเขตแล้วมาอ้างเรื่องเสรีภาพเลยครับ เพราะอะไรที่มันไม่ใช่มันก็ไม่ใช่หรอกครับ

และก่อนจะวิจารณ์อะไร ลองถามใจตัวเองดูก่อนนะครับ

หากคุณมีพ่อ ที่เคยดูแลคุณมา จะเป็นพ่อแท้หรือแค่นับถือ ก็ไม่เป็นไร

คุณได้เกิดมา มีชีวิตที่ดี มีความสงบสุข ได้มีโอกาสเรียนหนังสือ จบการศึกษาสูงๆ มีการมีงานดีๆ ทำ
คุณยังอายุไม่มาก มีความสามารถ เก่งกาจ ฉลาด รอบรู้
คุณอาจจะมองไปที่ พ่อของคุณ ที่รับภาระ ดูแลบ้านผ่านความยากลำบากมากมาก
ท่านทำงานมานานจนชรามากแล้ว แต่ลูกอกตัญญูบางคนก็อาจมองแล้วคิดว่า…

“แกนี่ช่างน่าเบื่อเสียจริง ทำอะไรก็สู้ฉันไม่ได้หรอก ฉันฉลาดกว่าแกเยอะนัก
คนเราต้องเท่าเทียมกันสิ แกจะมาทำตัวเหนือกว่าฉันได้ยังไง ฉันไม่ต้องการแกอีกต่อไปแล้ว
ฉันมีอายุยังน้อย แต่เดี๋ยวแกก็ตายแล้ว … บลา บลา บลา…”

หากมีคนมาลบหลู่ มาหยามเกียรติ พ่อของคุณ หรือคนที่คุณนับถือเหมือนพ่อ คุณมีสิทธิ์จะโกรธ จะบันดาลโทสะจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ เป็นไปได้ไหม?

เลิกดูถูกเหยียดหยามคนอื่นกันเสียทีเถอะครับ บ้านเมืองของเราจะได้สงบสุขเสียที……

No comments: